นายเดวิด ลิปตัน รองผู้อำนวยการกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) เปิดเผยว่า การที่ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ได้หันมาใช้นโยบายการเงินในรูปแบบใหม่นั้น เริ่มปรากฏให้เห็นความสำเร็จบ้างแล้ว พร้อมระบุว่า นโยบายการเงินของ BOJ มีความเหมาะสมและมีประสิทธิภาพ เมื่อพิจารณาในแง่ของเสถียรภาพในตลาดและผลตอบแทนพันธบัตร
ขณะเดียวกันรายงานของ IMF ซึ่งมีการเผยแพร่ในวันนี้ระบุว่า ญี่ปุ่นหลีกเลี่ยงการถอนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ พร้อมกับแนะนำให้ญี่ปุ่นคงนโยบายการเงินแบบผ่อนคลายไว้ต่อไป เพื่อเร่งกระบวนการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจและผลักดันเงินเฟ้อให้ปรับตัวสูงขึ้น
นอกจากนี้ IMF ระบุว่า แม้อัตราแลกเปลี่ยนของญี่ปุ่นจะอยู่ในทิศทางที่สอดคล้องกับปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจในระยะกลาง แต่รัฐบาลญี่ปุ่นกำลังประสบปัญหาเกินดุลบัญชีเดินสะพัดจำนวนมหาศาล
ทั้งนี้ ในการประชุมรอบล่าสุดเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ธนาคารกลางญี่ปุ่นได้มีมติคงนโยบายผ่อนคลายการเงินเชิงรุก โดยมีเป้าหมายที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ และเดินหน้าความพยายามในการบรรลุเป้าหมายเงินเฟ้อที่ระดับ 2%
คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของ BOJ มีมติด้วยคะแนนเสียง 7 ต่อ 2 ให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ -0.1% รวมทั้งเดินหน้าโครงการซื้อพันธบัตรรัฐบาล เพื่อตรึงอัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปีให้อยู่ที่ระดับ 0%
แถลงการณ์ภายหลังการประชุมของ BOJ ระบุว่า BOJ ได้คงมุมมองเศรษฐกิจเอาไว้ที่ระดับเดิมว่า เศรษฐกิจภายในประเทศมีทิศทางการขยายตัวปานกลาง พร้อมกับเน้นย้ำถึงความมั่นสัญญาที่จะเดินหน้ากระตุ้นเศรษฐกิจต่อไปตราบเท่าที่จำเป็น เพื่อรักษาเป้าหมายเงินเฟ้อที่ระดับ 2%