นายฟิลิป แฮมมอนด์ รมว.คลังอังกฤษ เปิดเผยว่า อังกฤษและสหภาพยุโรป (EU) จำเป็นต้องมีการหารือเรื่องระบบการดำเนินงานใหม่ เพื่อควบคุมดูแลการทำธุรกิจระหว่างธนาคารอังกฤษกับธนาคารของยุโรปภายหลังจากที่อังกฤษถอนตัวออกจากสหภาพยุโรปเสร็จสมบูรณ์แล้ว
ก่อนหน้านี้ได้เกิดกระแสวิตกกังวลว่า การทำธุรกรรมระหว่างสองฝั่งนี้จะเกิดการชะงักตัว
รมว.คลังอังกฤษ กล่าวว่า ทั้งสองฝ่ายจำเป็นต้องมีการหารือในเรื่องนี้ เพราะหากไม่มีการดำเนินการใดๆแล้ว คุณภาพในการให้บริการก็จะลดลง ขณะที่ราคาผลิตภัณฑ์ทางการเงินก็จะสูงขึ้นสำหรับทุกฝ่าย โดยระบบใหม่จำเป็นต้องโปร่งใส เป็นธรรม และสอดคล้องกับมาตรฐานโลก
นอกจากนี้ ระบบใหม่ยังจำเป็นต้องให้ประโยชน์แก่ทั้งสองฝ่าย มีความน่าเชื่อถือ และชูเรื่องเสถียรภาพทางการเงินเป็นสำคัญ ทั้งยังต้องเป็นที่พึ่งพาได้สำหรับธุรกิจที่อยู่ในอำนาจของระบบใหม่นี้ด้วย
สำหรับสถานการณ์ล่าสุดในเรื่องการถอนอังกฤษออกจากสหภาพยุโรป เมื่อคืนนี้คณะผู้เจรจาจากสหภาพยุโรป (EU) และอังกฤษต่างก็กล่าวว่า การเจรจาในวันแรกเกี่ยวกับการแยกตัวของอังกฤษออกจาก EU (Brexit) เป็นไปอย่างสร้างสรรค์ ในการวางกรอบการเจรจาในอนาคต โดยประเด็นสิทธิของพลเมืองที่อาศัยในดินแดนของแต่ละฝ่าย จะเป็นประเด็นแรกที่จะมีการเจรจา
ทั้งนี้ นายมิเชล บาร์นิเยร์ ตัวแทนเจรจาฝ่าย EU และนายเดวิด เดวิส ตัวแทนเจรจาฝ่ายอังกฤษ กล่าวว่า พวกเขารู้สึกพึงพอใจกับการเจรจาในวันแรก ถึงแม้กำหนดเส้นตายจะเป็นเรื่องที่ท้าทาย แต่ก็เป็นเรื่องที่สามารถบรรลุได้
นายบาร์นิเยร์กล่าวว่า ที่ประชุมเห็นพ้องให้ทำการเจรจาเรื่องสิทธิพลเมืองเป็นอันดับแรก ต่อด้วยจำนวนเงินที่อังกฤษจะต้องจ่าย หากต้องการแยกตัวออกจาก EU รวมทั้งประเด็นชายแดนของไอร์แลนด์
นายบาร์นิเยร์ระบุว่า หากมีความคืบหน้าในการเจรจาประเด็นเหล่านี้แล้ว ก็จะมีการพิจารณาความสัมพันธ์ใหม่ระหว่าง EU และอังกฤษ
ทางด้านนายเดวิสกล่าวว่า ทั้ง 2 ฝ่ายได้เริ่มต้นการเจรจาด้วยดี ถึงแม้ว่าจะยังคงมีความท้าทายรออยู่เบื้องหน้า