สำนักข่าว AMNA ของกรีซ รายงานว่า นายเคลาส์ เรกลิง ประธานกองทุนกลไกรักษาเสถียรภาพยุโรป (ESM) คาดการณ์ว่า รัฐบาลกรีซจะสามารถเลิกรับเงินช่วยเหลือจากกลุ่มเจ้าหนี้ได้ในช่วงกลางปี 2561 โดยขณะนี้กรีซควรมุ่งไปที่การกระตุ้นเศรษฐกิจให้เติบโต เพื่อกอบกู้ความเชื่อมั่นกลับคืนมา
นอกจากนี้ ประธาน ESM ยังคาดการณ์ว่า กรีซน่าจะสามารถเข้าถึงตลาดทุนได้อีกครั้งภายในปีนี้ หรือไม่ก็ต้นปีหน้า
ถ้อยแถลงดังกล่าวมีขึ้น ขณะที่ประธาน ESM กำลังหารือกับนายอเล็กซิส ซิปราส นายกรัฐมนตรีกรีซ
ด้านนายกรัฐมนตรีกรีซขานรับว่า รัฐบาลกรีซมีเป้าหมายเพื่อกอบกู้ความเชื่อมั่นจากตลาด พร้อมปิดฉากการรับเงินช่วยเหลือในช่วงกลางปีหน้า
ทั้งนี้ ความน่าเชื่อถือของกรีซส่งสัญญาณดีขึ้น หลังจากที่มูดี้ส์ อินเวสเตอร์ส เซอร์วิส ประกาศเพิ่มอันดับความน่าเชื่อถือของกรีซ 1 ขั้น สู่ระดับ Caa2 จากระดับ Caa3 นอกจากนี้ มูดี้ส์ยังได้ปรับทบทวนแนวโน้มความน่าเชื่อถือของกรีซขึ้นสู่ระดับ "เชิงบวก" จากเดิม "มีเสถียรภาพ" ซึ่งบ่งชี้ว่า มูดี้ส์อาจจะปรับเพิ่มอันดับความน่าเชื่อถือของกรีซอีกในวันข้างหน้า
รายงานของมูดี้ส์ระบุว่า ปัจจัยที่ทำให้มูดี้ส์พิจารณาปรับเพิ่มอันดับความน่าเชื่อถือของกรีซนั้น มาจากการที่รัฐมนตรีคลังของสหภาพยุโรป หรือยูโรกรุ๊ป ได้บรรลุข้อตกลงเบิกจ่ายเงินกู้งวดใหม่ให้กับกรีซในวงเงินสูงถึง 8.5 พันล้านยูโร (9.47 พันล้านดอลลาร์) เพื่อให้กรีซนำไปชำระหนี้ที่ใกล้ครบกำหนดชำระ ขณะเดียวกันยูโรกรุ๊ปยังได้ให้คำมั่นสัญญาที่จะให้ความช่วยเหลือกรีซในการชำระหนี้ในอนาคต ขณะที่กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ก็ได้แสดงความพร้อมที่จะให้ความช่วยเหลือเช่นกัน เพื่อช่วยให้กรีซมีความสามารถในการชำระหนี้อย่างยั่งยืน
นอกจากนี้ มูดี้ส์ยังพิจารณาถึงสถานะการคลังของกรีซที่ฟื้นตัวขึ้น รวมทั้งภาวะเศรษฐกิจที่มีแนวโน้มดีขึ้น