ออโต้ดาต้า คอร์ป บริษัทวิจัยอุตสาหกรรมยานยนต์ระดับชั้นนำ เปิดเผยว่า ยอดขายรถยนต์ใหม่ในสหรัฐปรับตัวลดลง 2.1% ในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2560 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน ซึ่งถือเป็นการหดตัวลงครั้งแรกในรอบ 8 ปี
รายงานระบุว่า ยอดขายรถใหม่ในสหรัฐในช่วงเดือนม.ค.-มิ.ย.ที่ผ่านมา อยู่ที่ระดับ 8,452,453 คัน ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2552 ซึ่งเป็นปีที่ยอดขายรถตกฮวบจากผลพวงวิกฤตการเงินทั่วโลกในปี 2551
นักวิเคราะห์จำนวนมากคาดการณ์ว่า ยอดขายรถยนต์ตลอดทั้งปีนี้จะร่วงลงจากระดับ 17.55 ล้านคันในปี 2559 ซึ่งเป็นสถิติยอดขายที่ดีที่สุดของสหรัฐ สืบเนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับการปรับขึ้นดอกเบี้ยสินเชื่อรถยนต์ ตามทิศทางของการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐ
สำหรับเดือนมิ.ย.เดือนเดียวนั้น ยอดขายรถใหม่ปรับตัวลดลง 3.0% สู่ระดับ 1,474,360 คัน ซึ่งเป็นการปรับตัวลง 6 เดือนติดต่อกัน โดยยอดขายของเจเนอรัล มอเตอร์ส (GM) ร่วงลง 4.8% สู่ระดับ 242,873 คัน ขณะที่ฟอร์ด มอเตอร์ มียอดขาย 227,979 คัน ร่วงลง 5.1% เมื่อเทียบกับปีก่อน ส่วนเฟียต ไครสเลอร์ ออโตเมทีฟ มียอดขายร่วงลงถึง 7% สู่ระดับ 187,348 คัน
อย่างไรก็ตาม ผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติญี่ปุ่นหลายรายยังคงมียอดขายรถที่แข็งแกร่ง โดยโตโยต้า มอเตอร์ คอร์ป มียอดขายพุ่งขึ้น 2.1% ขณะที่นิสสัน มอเตอร์, ฮอนด้า มอเตอร์ และฟูจิ เฮฟวี อินดัสตรีส์ มียอดขายเติบโต 2.0%, 0.8% และ 11.7% ตามลำดับ
ขณะที่มาสด้า มอเตอร์ คอร์ป และมิตซูบิชิ มอเตอร์ส คอร์ป มียอดขายร่วงลง 14.7% และ 5.0% ตามลำดับ