ยูนิลีเวอร์ ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายสินค้าอุปโภคและบริโภครายใหญ่ เปิดเผยว่า ผลกำไรและรายได้ของบริษัทปรับตัวสูงขึ้น หลังจากที่บริษัทได้ขึ้นราคาสินค้า 3% ในไตรมาส 2 ของปีนี้ ซึ่งช่วยชดเชยปริมาณยอดขายที่ซบเซา นอกจากนี้ ผลประกอบการที่ดีขึ้นยังเป็นผลมาจากมาตรการตัดลดรายจ่ายอีกด้วย
บริษัทสัญชาติอังกฤษ-ดัตช์ เปิดเผยว่า ยอดขายในไตรมาส 2 เพิ่มขึ้น 3% ซึ่งแม้ว่าจะต่ำกว่าระดับ 3.2% ที่มีการคาดการณ์ไว้ แต่ยูนิลีเวอร์ยืนยันว่าบริษัทจะสามารถทำยอดขายตลอดทั้งปีได้ตามเป้าหมาย 3-5% ที่กำหนดไว้อย่างแน่นอน โดยยูนิลีเวอร์เชื่อว่า ยอดขายจะเพิ่มขึ้นในช่วงครึ่งปีหลังนี้ จากอานิสงส์การออกผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ
สำหรับรายได้ในช่วงครึ่งปีแรก ขยายตัวในอัตรา 3% เช่นกัน เทียบกับระดับคาดการณ์ที่ 3.1% ส่วนผลกำไรสุทธิงวดหกเดือนทะยานขึ้น 22.4%
ทั้งนี้ เมื่อช่วงต้นปี ยูนิลีเวอร์ได้ปฏิเสธข้อเสนอควบรวมกิจการกับบริษัทคราฟท์ ไฮนซ์ วงเงิน 1.35 แสนล้านยูโร (1.43 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ) หรือ 47 ยูโรต่อหุ้น โดยให้เหตุผลว่า ข้อเสนอของคราฟท์ ไฮนซ์ มีมูลค่าต่ำเกินไป และยูนิลีเวอร์เล็งเหตุว่าข้อเสนอดังกล่าวไม่เกิดประโยชน์ต่อผู้ถือหุ้น ไม่ว่าจะพิจารณาทางด้านการเงิน หรือในด้านกลยุทธ์