รัฐบาลบราซิลประกาศข้อบังคับใหม่สำหรับอุตสาหกรรมเหมืองแร่ ซึ่งรวมถึงการปรับขึ้นอัตราภาษีจากการทำเหมือง หวังเพิ่มรายได้เข้ารัฐเพื่อบรรลุเป้าหมายการคลังในปีนี้
ภาษีจากการใช้ทรัพยากรธรณี (CFEM) ซึ่งรัฐบาลเรียกเก็บจากบริษัทที่ดำเนินกิจการในภาคธุรกิจการทำเหมืองนั้น จะปรับขึ้นในเดือนพ.ย. โดยอัตราดังกล่าวจะแตกต่างกันออกไปตามแต่ประเภทของแร่ชนิดนั้นๆ
ยกตัวอย่างเช่น ภาษีการทำเหมืองทองจะเพิ่มขึ้นจาก 1% เป็น 2% ขณะที่ภาษีเหมืองไนโอเบียมจะเพิ่มขึ้นจาก 2% เป็น 3%
สำหรับอัตราภาษีแร่เหล็กจะแตกต่างกันไปตามตลาดในต่างประเทศ โดยรัฐบาลได้กำหนดอัตราสูงสุดไว้ที่ 4% นอกจากนี้ ภาษีเหล่านี้จะถูกคิดคำนวณจากรายได้รวม แทนการเก็บภาษีจากรายได้สุทธิ
ขณะเดียวกัน รัฐบาลยังได้ประกาศจัดตั้งสำนักงานเหมืองแร่แห่งชาติ เพื่อทำหน้าที่กำกับดูแลภาคอุตสาหกรรมแทนกรมการผลิตแร่แห่งชาติ
นายเฟร์นันโด โคเอลโญ ฟิลโญ รัฐมนตรีกระทรวงพลังงานและเหมืองแร่บราซิล กล่าวว่า การเปลี่ยนแปลงอัตราภาษีใหม่นี้จะทำให้บราซิลสามารถเก็บภาษีได้มากขึ้น 80%
เมื่อปีแล้วรัฐบาลบราซิลมีรายได้จากการเก็บภาษีเหมืองแร่รวมทั้งสิ้น 1.6 พันล้านเรียล (504 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) โดยรัฐบาลได้ดำเนินการปรับขึ้นภาษีในครั้งนี้ก็เพื่อให้บรรลุเป้าหมายการคลังที่กำหนดไว้สำหรับปี 2560
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า นอกจากจะขึ้นภาษีเหมืองแร่แล้ว รัฐบาลบราซิลยังได้ประกาศขึ้นภาษีน้ำมันอีกด้วย