เศรษฐกิจยูโรโซนเริ่มส่งสัญญาณขยายตัวรวดเร็วขึ้น โดยสำนักงานสถิติแห่งยุโรป (ยูโรสแตท) เปิดเผยว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของประเทศกลุ่มยูโรโซน และกลุ่มสหภาพยุโรป (EU) มีการขยายตัวได้ดีในไตรมาส 2
รายงานของยูโรสแตทระบุว่า ตัวเลขประมาณการเบื้องต้นของ GDP ไตรมาส 2 ของยูโรโซน ขยายตัว 0.6% เมื่อเทียบเป็นรายไตรมาส และขยายตัว 2.1% เมื่อเทียบรายปี
แจ็ค อัลเลน นักเศรษฐศาสตร์ชาวยุโรป กล่าวในงานวิจัยซึ่งเผยแพร่โดยแคปิตอล อิโคโนมิคส์ ว่า แม้ข้อมูลในช่วงครึ่งปีแรกดูเหมือนจะเคลื่อนไหวไม่มากนัก แต่ในภาพรวมนั้น เศรษฐกิจยูโรโซนยังคงอยู่ในทิศทางที่ดี
"แม้เยอรมนีจะยังไม่เปิดเผยตัวเลขจีดีพีในไตรมาสที่ 2 แต่ข้อมูลรายเดือนซึ่งมีการเปิดเผยก่อนหน้านี้แสดงให้เห็นว่า เศรษฐกิจยูโรโซนยังคงมีการขยายตัวในอัตราที่รวดเร็ว ซึ่งอาจทำให้ยูโรสแตทปรับเพิ่มการประมาณการตัวเลข GDP ยูโรโซนในภายหลัง ส่วนผลสำรวจความเชื่อมั่นผู้บริโภคและภาคธุรกิจประจำเดือนก.ค.พบว่า มีการขยายตัวอย่างแข็งแกร่งในช่วงต้นไตรมาสที่ 3 ด้วย" อัลเลนกล่าว
"โดยรวมก็คือ เศรษฐกิจยูโรโซนกำลังขับเคลื่อนไปในทิศทางที่ดี ซึ่งอาจสนับสนุนให้ธนาคารยุโรป (ECB) ตัดสินใจชะลอการซื้อสินทรัพย์ในปีหน้า" อัลเลนกล่าว พร้อมเพิ่มเติมว่า การฟื้นตัวของ GDP ไตรมาส 2 ของยูโรโซนอาจเป็นปัจจัยที่ทำให้ ECB ตัดสินใจปรับนโยบายการเงินให้กลับสู่ภาวะปกติ
เมรีน ข่าน นักวิเคราะห์จากไฟแนนเชียล ไทม์ส คาดการณ์ว่า คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของ ECB จะแสดงความพอใจต่อตัวเลข GDP ของยูโรโซนในไตรมาส 2 หลังจากที่ก่อนหน้านี้ เศรษฐกิจยูโรโซนได้รับแรงกดดันอย่างหนักจากความไม่แน่นอนในการเลือกตั้งของเนเธอร์แลนด์ ออสเตรีย และฝรั่งเศส นอกจากนี้ ข้อมูล GDP ไตรมาส 2 ยังช่วยกอบกู้ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคและภาคธุรกิจให้กลับคืนมาด้วย
นอกเหนือจากการเติบโตของตัวเลข GDP แล้ว เศรษฐกิจในยูโรโซนยังแสดงให้เห็นถึงการฟื้นตัวในหลายๆด้าน โดยยูโรสแตท รายงานว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ในยูโรโซนทรงตัวที่ระดับ 1.3% ในเดือนก.ค. เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีที่แล้ว และสอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์
อย่างไรก็ดี ดัชนี CPI พื้นฐาน ซึ่งไม่รวมหมวดอาหารและพลังงาน ดีดตัวขึ้นสู่ระดับ 1.3% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 4 ปี จากระดับ 1.2% ในเดือนมิ.ย. สวนทางนักวิเคราะห์ที่คาดว่าจะลดลงสู่ระดับ 1.1%
นอกจากนี้ ยูโรสแตทยังเปิดเผยว่า อัตราการว่างงานในยูโรโซนร่วงลงสู่ระดับ 9.1% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนก.พ.2009 และต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 9.2%