กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) เตือนว่า กลยุทธ์ในการใช้การปล่อยสินเชื่อเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจของจีนนั้น จะก่อให้เกิดความวุ่นวายทางการเงินได้ในอนาคต
IMF เปิดเผยในรายงานภาวะเศรษฐกิจประจำปี 2560 โดยระบุว่า การขยายตัวทางเศรษฐกิจอย่างรวดเร็วของจีนนั้น เป็นผลมาจากการหนี้ภาคเอกชนที่พุ่งสูงขึ้น และการใช้เครื่องมือทางการเงินที่มีความซับซ้อนมากขึ้น โดยสัดส่วนหนี้สินต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) จีนอาจเพิ่มขึ้นจาก 235% สู่ระดับเกือบ 300% ในปี 2565 ขณะที่ประเมินครั้งก่อนๆในหมู่ประเทศสมาชิกพบว่า สัดส่วนหนี้สินสูงสุดอยู่ที่ระดับ 270% ของ GDP
IMF กล่าวว่า จากประสบการณ์ของประเทศอื่นๆได้ชี้ให้เห็นว่า หนี้สินที่เพิ่มขึ้นของจีน จะทำให้ประเทศต้องเผชิญกับความเสี่ยงมากยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ IMF ยังแสดงความวิตกกังวลเกี่ยวกับวิธีการที่จีนใช้ในการกระตุ้นการขยายตัวทางเศรษฐกิจ ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มงบประมาณสำหรับโครงการโครงสร้างพื้นฐาน หรือความตั้งใจที่จะให้ธนาคารของรัฐปล่อยเงินกู้ให้กับภาคเอกชนเพิ่มขึ้นเพื่อนำไปใช้พัฒนาการลงทุนในด้านอสังหาริมทรัพย์ โดยระบุว่า การสร้างหนี้ทั้งในภาคสาธารณะและภาคเอกชน จะทำให้จีนต้องเผชิญกับความยากลำบากหากเกิดวิกฤติทางการเงินในวันข้างหน้า