ผู้แทนการค้าสหรัฐแสดงความกังวลหลังญี่ปุ่นตั้งภาษีนำเข้าเนื้อวัวสหรัฐ

ข่าวเศรษฐกิจ Friday August 18, 2017 13:57 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายโรเบิร์ต ไลท์ไทเซอร์ ผู้แทนการค้าสหรัฐ (USTR) แสดงความกังวลเกี่ยวกับกรณีที่ญี่ปุ่นตั้งภาษีนำเข้าเนื้อวัวแช่แข็งจากสหรัฐและประเทศอื่นๆ ในระหว่างการพบปะหารือกับนายทาโร โคโนะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศญี่ปุ่น ซึ่งอยู่ระหว่างการเดินทางเยือนสหรัฐ

สำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐเปิดเผยว่า นายไลท์ไทเซอร์ได้กล่าวถึงกรณีที่ญี่ปุ่นใช้มาตรการปกป้องการนำเข้าสินค้าที่เพิ่มขึ้น ด้วยการปรับขึ้นอัตราภาษีเนื้อวัวแช่แข็งจากสหรัฐและประเทศอื่นๆ เป็น 50% จากเดิม 38.5% ในระหว่างวันที่ 1 ส.ค. 2560 - 31 มี.ค. 2561

สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ข้อมูลจากกระทรวงเกษตรสหรัฐเปิดเผยว่า เมื่อปีที่ผ่านมา สหรัฐส่งออกเนื้อวัวและผลิตภัณฑ์เนื้อวัวไปยังญี่ปุ่นรวมมูลค่าทั้งสิ้น 1.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ส่งผลให้ญี่ปุ่นเป็นตลาดส่งออกเนื้อวัวอันดับ 1 ของสหรัฐ ซึ่งภายใต้กฎกติกาขององค์การการค้าโลก (WTO) นั้น ญี่ปุ่นสามารถเพิ่มภาษีปกป้อง (Safeguard Tariff) ได้ หากการนำเข้าขยายตัวมากกว่า 17% ในหนึ่งไตรมาส เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อนหน้า

ด้านรัฐบาลสหรัฐได้ประกาศเอาไว้ว่าจะลดยอดขาดดุลการค้าของสหรัฐกับหลายประเทศ ซึ่งรวมถึงจีน ญี่ปุ่น เม็กซิโก และเยอรมนี ภายใต้นโยบาย "อเมริกาต้องมาก่อน" ของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์

แถลงการณ์โดยสำนักผู้แทนการค้าสหรัฐระบุว่า นายไลท์ไทเซอร์และนายโคโนะได้ตกลงที่จะเร่งการเจรจาระหว่างสหรัฐและญี่ปุ่น เพื่อส่งเสริมการค้าเสรีและเป็นธรรม โดยนายไลท์ไทเซอร์กล่าวว่า ตนและนายวิลเบอร์ รอส รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ของสหรัฐ ยินดีเร่งการเจรจาด้านการค้ากับญี่ปุ่น เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ของรัฐบาลสหรัฐในการผลักดันการค้าที่เสรีและเป็นธรรมกับประเทศคู่ค้ารายใหญ่

นายไลท์ไทเซอร์กล่าวด้วยว่า "ผมมุ่งหวังที่จะมีส่วนร่วมกับญี่ปุ่นอย่างจริงจังและสร้างสรรค์ในหลายประเด็น เพื่อพัฒนาผลประโยชน์ด้านการค้าแก่แรงงานสหรัฐ"


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ