สมาคมเหล็กจีนเผยราคาเหล็กในประเทศอาจปรับขึ้นไม่มาก เนื่องจากข้อจำกัดจากนโยบายรัฐบาล

สมาคมเหล็กและเหล็กกล้าจีน (CISA) เปิดเผยว่า แม้ราคาเหล็กในประเทศจะเริ่มปรับตัวขึ้น แต่ยังต้องเผชิญกับข้อจำกัดจากมาตรการใหม่ในการลดอุปทานส่วนเกินของรัฐบาล

CISA กล่าวว่า ดัชนีราคาเหล็กที่พุ่งขึ้นสู่ระดับสูงสุดในปีนี้ที่ 106.49 จุด ณ สิ้นเดือนก.ค.ที่ผ่านมานั้น สืบเนื่องมาจากการที่แร่เหล็กมีราคาสูงขึ้น และมีอุปสงค์เพิ่มมากขึ้น แต่ในขณะเดียวกันอุปทานได้ลดลงเนื่องจากนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการลดกำลังการผลิตส่วนเกิน และเพิ่มการป้องกันสิ่งแวดล้อม

ข้อมูลของ CISA ระบุว่า ยอดการผลิตเหล็กดิบของจีนในช่วง 7 เดือนแรกของปีนี้อยู่ที่ 492 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 5.1% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว ขณะที่ปริมาณการใช้เหล็กดิบในช่วง 7 เดือนแรกของปีนี้ อยู่ที่ 450 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 10.9% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว

อย่างไรก็ตาม การผลิตเหล็กยังต้องเผชิญกับข้อจำกัดจากการบังคับใช้กฎหมายป้องกันสิ่งแวดล้อม ซึ่งจะส่งผลต่ออุปทานเหล็กในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้านี้ โดยการแข่งขันในด้านการผลิตจะเป็นตัวยับยั้งไม่ให้ราคาปรับตัวสูงขึ้นไปกว่านี้มากนัก CISA กล่าว

ทั้งนี้ ความพยายามของรัฐบาลจีนในการปิดโรงงานผลิตเหล็กขนาดเล็กซึ่งนำเอาเศษเหล็กมาผลิตเป็นเหล็กคุณภาพต่ำ ได้ส่งผลให้อุปทานเหล็กในประเทศลดลง

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า มาตราการลดกำลังผลิตส่วนเกิน, แก้ไขปัญหามลพิษ และเพิ่มความปลอดภัยในโรงงานต่างๆของรัฐบาล ได้นำไปสู่การปราบปรามโรงงานผลิตเหล็กขนาดเล็กที่ความสามารถในการผลิตคิดเป็น 4% ของยอดผลิตทั้งหมด