มาร์ค แซนดี้ นักเศรษฐศาสตร์จากมูดี้ส์ อินเวสเตอร์ เซอร์วิส กล่าวว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ควรส่งสัญญาณต่อตลาดอย่างชัดเจนในกรณีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งต่อไป
ตลาดการเงินคาดการณ์ว่า โอกาสที่เฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ยในเดือนธ.ค.นั้นมีไม่ถึง 50% ขณะที่หลายฝ่ายคาดว่า เฟดจะปรับลดงบดุลในการประชุมเดือนก.ย. โดยปัจจุบันงบดุลของเฟดอยู่ที่ 4.5 ล้านล้านดอลลาร์
รายงานการประชุมประจำเดือนก.ค.ของเฟดระบุว่า เจ้าหน้าที่เฟดส่วนใหญ่ต้องการให้รอคอยจนถึงการประชุมนโยบายการเงินในครั้งหน้า ก่อนที่จะเปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับการปรับลดงบดุลซึ่งปัจจุบันอยู่ที่ 4.5 ล้านล้านดอลลาร์
การปรับลดงบดุลของเฟด จะส่งผลให้เฟดลดการถือครองพันธบัตรรัฐบาล, ตราสารหนี้ของหน่วยงานของรัฐ และหลักทรัพย์ที่มีสัญญาจำนองค้ำประกัน (MBS) ที่เฟดได้เข้าซื้อในตลาดในช่วงที่เกิดวิกฤตเศรษฐกิจในปี 2550 - 2552 เพื่อกระตุ้นการขยายตัวทางเศรษฐกิจในขณะนั้น
ทั้งนี้ คาดว่าเมื่อเฟดทำการลดการถือครองพันธบัตรรัฐบาล, ตราสารหนี้ของหน่วยงานของรัฐ และ MBS ตามเป้าที่วางไว้ จะส่งผลให้งบดุลของเฟดลดลงสู่ระดับ 2.0-2.5 ล้านล้านดอลลาร์ จากปัจจุบันที่ระดับ 4.5 ล้านล้านดอลลาร์