โรงกลั่นน้ำมันหลายแห่งของสหรัฐที่ตั้งอยู่บริเวณอ่าวเม็กซิโกได้พากันปิดทำการและลดกำลังการผลิต เนื่องจากผลกระทบของพายุเฮอร์ริเคน "ฮาร์วีย์" ที่พัดถล่มรัฐเท็กซัสเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา
ล่าสุด โรงกลั่นน้ำมันของบริษัท มาราธอน ปิโตรเลียม และไลออนเดล บาเซล อินดีสทรีส์ ได้ประกาศลดกำลังการผลิตลงครึ่งหนึ่ง ขณะที่โรงกลั่นน้ำมันของบริษัท โมติวา เอ็นเตอร์ไพรส์ ในรัฐเท็กซัส ซึ่งเป็นโรงกลั่นน้ำมันขนาดใหญ่ กำลังพิจารณาปิดทำการ เนื่องจากมีน้ำท่วมสูงในบริเวณโรงกลั่น
ด้านบริษัทเอ็กซอน โมบิล ได้ประกาศปิดโรงกลั่นเบย์ทาวน์ ซึ่งเป็นหนึ่งในโรงกลั่นน้ำมันที่ใหญ่ที่สุดในสหรัฐ และมีกำลังการกลั่นน้ำมันดิบในปริมาณสูงถึง 584,000 บาร์เรลต่อวัน ขณะที่บริษัทรอยัล ดัชท์ เชลล์ ได้ประกาศปิดโรงกลั่นเดียร์พาร์ค ซึ่งตั้งอยู่ใกล้กับเมืองฮุสตัน โดยโรงกลั่นแห่งนี้มีกำลังการกลั่น 285,000 บาร์เรล/วัน
อิทธิพลของพายุเฮอร์ริเคนฮาร์วีย์ส่งผลให้เกิดท่วมครั้งใหญ่ในรัฐเท็กซัส และมีแนวโน้มว่าภัยพิบัติในครั้งนี้จะทวีความรุนแรงมากขึ้น ด้านประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐ จะเดินทางไปยังรัฐเท็กซัสในวันนี้ตามเวลาสหรัฐ หลังจากพายุเฮอร์ริเคนฮาร์วีย์ส่งผลให้เกิดฝนตกหนักทั่วรัฐเท็กซัส และยังทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 7 คนในขณะนี้
ปธน.ทรัมป์ เปิดเผยก่อนหน้านี้ว่า ทางรัฐบาลกำลังประสานงานกับสภาคองเกรส และคาดว่าจะต้องใช้งบประมาณมหาศาลเพื่อกอบกู้สถานการณ์ที่เกิดขึ้น