แบล็ค ไนท์ ไฟแนนเชียล เซอร์วิสเซส ผู้ให้บริการข้อมูลวงการอสังหาริมทรัพย์ เปิดเผยว่า พายุเฮอร์ริเคน "ฮาร์วีย์" ที่พัดถล่มรัฐเท็กซัสนั้น อาจส่งผลให้ประชาชนในพื้นที่กว่า 75,000 รายไม่มีเงินชำระหนี้จำนองบ้านในช่วง 2 เดือนข้างหน้า ขณะที่อีกประมาณ 45,000 รายอาจกลายเป็นผู้มีหนี้เสียและถูกยึดจำนอง
รายงานดังกล่าวระบุว่า พื้นที่ที่ได้รับผลกระทบในรัฐเท็กซัสนั้นมีบ้านที่ทำสัญญาจำนองประมาณ 1 ล้านหลัง ในจำนวนนี้ประมาณ 56% ทำสัญญาจำนองกับสถาบันยักษ์ใหญ่อย่าง Fannie Mae และ Freddie Mac สิ่งนี้หมายความว่า เฮอร์ริเคนฮาร์วีย์อาจสร้างความเสียหายต่อวงการจำนองบ้านหนักกว่าครั้งที่พายุ "แคทรินา" พัดถล่มอ่าวเม็กซิโกในช่วงปลายเดือนส.ค. ปี 2548
อย่างไรก็ดี Fannie Mae และ Freddie Mac ได้ประกาศแผนช่วยเหลือผู้ประสบภัย โดยทางสถาบันจะไม่ฟ้องขับไล่และยึดบ้านที่ติดหนี้จำนอง และยังจะไม่เก็บค่าปรับกับเจ้าของบ้านที่เสียหายจากวิกฤติครั้งนี้ด้วย
ปัจจุบันพายุฮาร์วีย์ได้อ่อนกำลังลงเป็นพายุโซนร้อนในบริเวณอ่าวเม็กซิโก แต่อิทธิพลของพายุยังคงส่งผลให้เกิดฝนตกหนักอย่างต่อเนื่องในหลายพื้นที่ของรัฐเท็กซัส หลังพายุลูกดังกล่าวได้เคลื่อนตัวขึ้นฝั่งเมื่อวันศุกร์ที่แล้ว ขณะที่ทางการได้ประกาศภาวะฉุกเฉินใน 50 เทศมณฑลของรัฐเท็กซัส และบางส่วนของรัฐลุยเซียนา