นายสตีเวน มนูชิน รัฐมนตรีคลังของสหรัฐเปิดเผยว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เตรียมจะเปิดเผยรายละเอียดที่ชัดเจนเกี่ยวกับแผนปฏิรูปโครงสร้างภาษีภายในช่วงสิ้นเดือนก.ย.นี้
ขุนคลังสหรัฐกล่าวให้สัมภาษณ์กับสถานีข่าวซีเอ็นบีซีว่า คณะบริหารของทรัมป์ยังคงมุ่งมั่นที่จะผลักดันแผนปฏิรูประบบภาษีให้เป็นกฎหมายบังคับใช้ ซึ่งรวมถึงการปรับลดอัตราภาษีเงินได้นิติบุคคลจากระดับ 35% เหลือ 15% เพื่อยกระดับความสามารถในการแข่งขันและกระตุ้นการเจริญเติบโตของเศรษฐกิจสหรัฐ
นายมนูชินกล่าวว่า "สภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาสหรัฐกำลังอยู่ในขั้นจัดทำแผนปฏิรูป โดยเราจะนำพิมพ์เขียวเข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมาธิการสภาคองเกรส ก่อนที่จะลงมติผ่านร่างกฎหมายดังกล่าวในรัฐสภา เพื่อให้ประธานาธิบดีลงนามประกาศใช้เป็นกฎหมายต่อไป"
ทั้งนี้เมื่อวันพุธที่ผ่านมา ปธน.ทรัมป์ ได้กล่าวแถลงนโยบายด้านภาษีที่เมืองสปริงฟิลด์ รัฐมิสซิสซูรี โดยย้ำว่า เขาจะเดินหน้าปรับลดอัตราภาษีเงินได้นิติบุคคล ลงเหลือ 15% อย่างไรก็ตาม สื่อสหรัฐรายงานว่า คณะบริหารของทรัมป์กำลังพิจารณาปรับลดอัตราภาษีดังกล่าวลงสู่ระดับ 20-25%
แต่กระนั้น นายมนูชินย้ำว่า "อัตราภาษีเงินได้นิติบุคคลที่ระดับ 15% นั้น เป็นเพียงหลักการ แต่ไม่ว่าเราจะไปถึงจุดไหนในท้ายที่สุด เป้าหมายสำคัญคือการยกระดับความสามารถในการแข่งขันของสหรัฐ"
ก่อนหน้านี้คณะบริหารของทรัมป์ระบุว่า การปรับลดอัตราภาษีเงินได้นิติบุคคลลงเหลือ 15% จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของสหรัฐให้สามารถขยายตัวที่ระดับ 3% หรือสูงกว่านั้นในปีนี้ ขณะที่นายมนูชิน กล่าวว่า ส่วนต่างของการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจระหว่าง 2% กับเป้าหมายของทรัมป์ที่ 3% นั้น มีมูลค่ามหาศาล คิดเป็นเงินหลายล้านล้านดอลลาร์เลยทีเดียว