ผลสำรวจของมหาวิทยาลัยมิชิแกนระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐดีดตัวขึ้นสู่ระดับ 96.8 ในเดือนส.ค. แต่ต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 97.4 และต่ำกว่าระดับ 97.6 ซึ่งเป็นตัวเลขเบื้องต้นที่มีการเปิดเผยเมื่อ 2 สัปดาห์ก่อน หลังจากอยู่ที่ระดับ 93.4 ในเดือนก.ค.
ทั้งนี้ ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐเป็นการสำรวจความเชื่อมั่นของผู้บริโภค 500 รายต่อภาวะเศรษฐกิจ ซึ่งได้แก่ ฐานะการเงินส่วนบุคคล, ภาวะเงินเฟ้อ, การว่างงาน, อัตราดอกเบี้ย และนโยบายรัฐบาล
นายริชาร์ด เคอร์ติส หัวหน้านักวิเคราะห์ของมหาวิทยาลัยมิชิแกน กล่าวว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐปรับตัวในช่วง 8 เดือนแรกของปีนี้ดีกว่าทุกปีนับตั้งแต่ปี 2000 ซึ่งปีดังกล่าวถือเป็นปีที่ปรับตัวดีที่สุด โดยมีการขยายตัวยาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์สหรัฐ
นายเคอร์ติสตั้งข้อสังเกตุว่า ผู้บริโภคมีมุมมองเชิงบวกต่อแนวโน้มสถานะการเงินส่วนบุคคล โดยได้แรงหนุนจากอัตราการว่างงานต่ำ ขณะที่เงินเฟ้อ และอัตราดอกเบี้ยอยู่ในระดับต่ำเช่นกัน ส่วนราคาบ้าน และราคาหุ้นดีดตัวขึ้น
นอกจากนี้ ผู้บริโภคไม่ได้แสดงความกังวลต่อเหตุการณ์ความรุนแรงที่เมืองชาร์ลอตส์วิลล์ รัฐเวอร์จิเนีย รวมทั้งความขัดแย้งในคาบสมุทรเกาหลี