รัฐมนตรีเศรษฐกิจจาก 16 ประเทศในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ซึ่งร่วมเจรจาหารือในประเด็นข้อตกลงการค้าเสรี ที่จะเข้ามาแทนที่ความตกลงหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ทางเศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิก (TPP) ออกมายอมรับว่า ข้อตกลงดังกล่าวคงจะไม่สามารถสรุปได้ภายในสิ้นปีนี้
รัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องกับการเจรจาความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (RCEP) ซึ่งครอบคลุมประชาชนกว่า 3.5 พันล้านคน หรือครึ่งหนึ่งของจำนวนประชากรทั่วโลก และมีมูลค่ามากถึง 30% ของมูลค่าการค้าและจีดีพีทั่วโลก เปิดเผยว่า พวกเขาจะช่วยทำให้กระบวนการสำคัญๆของการเจรจากล่าวมีความคืบหน้าต่อไป ในช่วงที่ผู้นำของทั้ง 16 ประเทศมาร่วมประชุมกันที่กรุงมะนิลาในเดือนพ.ย.นี้
สำหรับประเทศที่เข้าร่วมการเจรจาทั้ง 16 ประเทศ ได้แก่ จีน, ญี่ปุ่น, อินเดีย, เกาหลีใต้, ออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ รวมถึง 10 ประเทศสมาชิกสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน)
RCEP ถูกมองว่าเป็นทางเลือกสำคัญที่จะเข้ามาแทนที่ความตกลงหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ทางเศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิก (TPP) ซึ่งเป็นข้อตกลงการค้าระหว่างสมาชิก 12 ประเทศที่ได้บรรลุข้อตกลงกันไปเมื่อปีที่แล้ว แต่ต่อมาก็ต้องหยุดชะงักลงเนื่องจากสหรัฐโดยประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ประกาศถอนตัวออกจากข้อตกลงดังกล่าวเมื่อเดือนม.ค.ที่ผ่านมา นับเป็นหนึ่งในความเคลื่อนไหวแรกๆหลังจากที่เข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐ
นายเซเฟริโน โรดอลโฟ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการค้าฟิลิปปินส์กล่าวว่า "RCEP เป็นเรื่องที่สำคัญเพียงเรื่องเดียวของข้อตกลงTPP ที่กำลังเจรจากันอยู่ในขณะนี้"
เขากล่าวว่า ประเทศที่เข้าร่วมการเจรจา RCEP ได้ยกเลิกเป้าหมายที่จะสรุปการเจรจาให้ได้ภายในสิ้นปีนี้ เนื่องจากความแตกต่างในเรื่องการลดพิกัดทางภาษีหรือการยกเลิกเป้าหมายต่างๆ รวมถึงการบริการด้านต่างๆที่จะเปิดกว้างขึ้น