นายปีเตอร์ ออร์สแซก อดีตผู้อำนวยการสำนักงานการบริหารและงบประมาณ (OMB) แห่งทำเนียบขาวของสหรัฐ เปิดเผยว่า ความเป็นไปได้ที่จะเกิดการปฏิรูปภาษีครั้งใหญ่ในสหรัฐ หรือแม้แต่การปรับลดภาษีนั้น มีแนวโน้มลดลงอย่างมากในเดือนที่ผ่านมา
อดีตผอ.สำนักงบประมาณสหรัฐ กล่าวในที่ประชุมของสภาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศว่า การปฏิรูปภาษีเป็นเรื่องที่อยู่ในความสนใจของประชาชนเสมอมา แต่เมื่อพิจารณาในรายละเอียดแล้ว คาดว่าเป็นไปได้ยากที่จะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้"
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า เมื่อปลายเดือนส.ค. นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ ได้พยายามดันให้สภาคองเกรสอนุมัติแผนปฏิรูปรหัสภาษียกเครื่อง แต่ไม่ได้เสนอแผนอย่างเจาะจง จนก่อให้เกิดข้อสงสัยว่ารัฐบาลสหรัฐจะเกิดความคืบหน้าเรื่องการปฏิรูปภาษีในปีนี้หรือไม่
นายออร์สแซก แย้งว่า ขณะนี้ฝ่ายร่างกฎหมายของสหรัฐมีประเด็นเร่งด่วนอื่นๆที่ต้องจัดการมากกว่าการปฏิรูปภาษี เช่นโครงการคุ้มครองผู้อพยพวัยเยาว์ที่เดินทางเข้ามาในสหรัฐ (DACA) ซึ่งกำลังเป็นข้อพิพาท และประเด็นเพดานหนี้
การที่รัฐบาลสหรัฐภายใต้การนำของปธน.ทรัมป์ประกาศยกเลิกโครงการ DACA นั้น ได้รับเสียงคัดค้านเป็นอย่างมากจากเหล่าผู้นำภาคธุรกิจ โดยโครงการดังกล่าวเป็นนโยบายสมัยอดีตประธานาธิบดีบารัค โอบามา เพื่อให้สิทธิในการพักอาศัยและประกอบอาชีพชั่วคราวแก่ผู้ที่อพยพเข้ามาในสหรัฐก่อนอายุครบ 16 ปีบริบูรณ์ หรือที่รู้จักกันในนามของ "นักล่าฝัน"
ขณะเดียวกัน ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ทำข้อตกลงกับพรรคเดโมแครตซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้านในการปรับเพิ่มเพดานหนี้ เพื่อช่วยให้รัฐบาลสหรัฐสามารถหลีกเลี่ยงการปิดหน่วยงานของรัฐไปจนถึงวันที่ 15 ธ.ค.
นายออร์สแซก กล่าวว่า "ผมคิดว่าไม่น่าจะมีการตกลงกันเรื่องภาษีก่อนประเด็นเรื่องเพดานหนี้ ร่างงบประมาณ หรือประเด็นอื่นๆกลับมาเป็นที่พูดถึงอีกครั้งในเดือนธ.ค.นี้"