ที่ประชุมรัฐมนตรีคลังยูโรโซน หรือ ยูโรกรุ๊ป ได้แสดงความเชื่อมั่นว่า การฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องของเศรษฐกิจยูโรโซนจะช่วยให้ภาวะเศรษฐกิจในภูมิภาคมีการเติบโตที่แข็งแกร่ง
นายเจอโรน ดิจเซลโบลม ประธานยูโรกรุ๊ปได้แถลงต่อสื่อมวลชนภายหลังการประชุมเมื่อวานนี้ว่า "เศรษฐกิจยูโรโซนยังคงฟื้นตัว และยังมีแนวโน้มที่แข็งแกร่งเป็นวงกว้าง ซึ่งครอบคลุม 19 ชาติสมาชิกยูโรโซน ทั้งนี้ แม้ว่าความเสี่ยงยังคงมีอยู่ และเรายังมีภารกิจอีกมากในการรับมือกับความเสี่ยงเหล่านี้ แต่เรามั่นใจว่า ทุกอย่างจะเป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้น"
นายดิจเซลโบลมซึ่งดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีคลังเนเธอร์แลนด์ด้วยนั้น ยังกล่าวด้วยว่า ในการประชุมครั้งนี้ รัฐมนตรีคลังยูโรโซนได้หารือกันเกี่ยวกับแนวทางในการรับมือกับวิกฤตการเงิน รวมทั้งการปฏิรูปเชิงโครงสร้างที่ประเทศต่างๆจำเป็นต้องดำเนินการ นอกจากนี้ ยังหารือกันเกี่ยวกับสหภาพธนาคารที่ได้ดำเนินการจัดตั้งแล้วเสร็จ การปรับปรุงระบบธรรมาภิบาล และกรอบการทำงานในระดับสถาบัน ซึ่งรวมถึงสถาบันระดับประเทศและระดับภูมิภาคยุโรป
สำหรับประเด็นเศรษฐกิจของกรีซนั้น นายดิจเซลโบลมเปิดเผยว่า ที่ประชุมยูโรกรุ๊ปขานรับข้อเสนอของกรีซในการยุติภาวะการขาดดุลงบประมาณที่สูงเกินไป โดยคาดว่าสภายุโรปจะให้การรับรองข้อเสนอดังกล่าวในการประชุมซึ่งจะมีขึ้นในช่วงปลายเดือนนี้
ทางด้านนายปิแอร์ มอสโควิซี กรรมาธิการด้านเศรษฐกิจและการเงินของสหภาพยุโรปกล่าวว่า มาตรการให้ความช่วยเหลือกรีซรอบใหม่จะได้ข้อสรุปในอีกไม่เกิน 1 ปี ซึ่งถือเป็นความสำเร็จของรัฐบาลกรีซและประชาชนชาวกรีซ รวมทั้งประเทศในกลุ่มยูโรโซนทั้งหมด
ทั้งนี้ เศรษฐกิจกรีซเริ่มส่งสัญญาณฟื้นตัว ขณะที่สถานการณ์หนี้สินของรัฐบาลกรีซก็มีแนวโน้มที่ดีขึ้น หลังจากที่กรีซได้รับความช่วยเหลือด้านการเงินจากกองทุนกลไกรักษาเสถียรภาพยุโรป (ESM) ทางด้านฟิทช์ เรทติ้งส์ ได้ปรับเพิ่มอันดับความน่าเชื่อถือของกรีซขึ้นสู่ระดับ B- จากระดับ CCC โดยระบุว่า ความเสี่ยงด้านการเมืองของกรีซเริ่มลดน้อยลง และผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของกรีซมีการขยายตัวดีขึ้น