องค์การการค้าโลก (WTO) ได้ปรับเพิ่มคาดการณ์การขยายตัวของการค้าทั่วโลกในปี 2560 สู่ระดับ 3.6% จากระดับ 2.4% ในรายงานประมาณการฉบับก่อนหน้านี้ เนื่องจากตัวเลขการค้าในช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมา มีการขยายตัวอย่างรวดเร็ว
คณะนักเศรษฐศาสตร์ประจำ WTO ระบุในรายงานว่า ปัจจัยที่ทำให้การค้าทั่วโลกเติบโตอย่างแข็งแกร่งในปี 2560 นั้น มาจากการฟื้นตัวของการค้าในเอเชีย โดยยอดการส่งมอบผลิตภัณฑ์ภายในภูมิภาคปรับตัวเพิ่มขึ้น ขณะที่อุปสงค์การนำเข้าของอเมริกาเหนือก็เริ่มฟื้นตัวดีขึ้น หลังจากที่ชะลอตัวลงในปี 2559
การขยายตัวอย่างแข็งแกร่งของเศรษฐกิจจีนและสหรัฐได้กระตุ้นอุปสงค์ในสินค้านำเข้า ซึ่งช่วยขับเคลื่อนการค้าในเอเชียให้เติบโตอย่างสดใส
WTO ระบุในรายงานด้วยว่า ภาคอุตสาหกรรมและบริการของจีนที่มีการเติบโตอย่างแข็งแกร่ง ได้ช่วยกระตุ้นอุปสงค์ภายในประเทศให้ขยายตัวในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2560 นอกจากนี้ สถานะทางการเงินโดยรวมในเอเชียก็ฟื้นตัวดีขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงครึ่งปีแรกของปี 2559 ส่งผลให้ภาคธุรกิจและผู้บริโภคมีความเชื่อมั่นมากขึ้น
ขณะเดียวกัน WTO กล่าวเสริมว่า การฟื้นตัวบางส่วนของราคาน้ำมันในปี 2560 เป็นปัจจัยที่ช่วยหนุนให้มีการลงทุนในสหรัฐเพิ่มขึ้น หลังจากที่ตกอยู่ในภาวะซบเซาในปี 2559 โดยเฉพาะในภาคอุตสาหกรรมพลังงาน
อย่างไรก็ตาม WTO ระบุว่า การขยายตัวอย่างรวดเร็วของการค้าในปีนี้อาจเป็นแนวโน้มที่เกิดขึ้นชั่วคราว ดังนั้น WTO จึงคาดการณ์ว่า การค้าทั่วโลกจะชะลอตัวลงมาอยู่ที่ระดับประมาณ 3.2% ในปี 2561
นายโรแบร์โต อาเซเวโด เลขาธิการ WTO กล่าวว่า ประเทศต่างๆควรเดินหน้าต่อต้านนโยบายกีดกันทางการค้า และหันมาร่วมมือกันในระบบการค้าแบบพหุภาคี เพื่อสร้างหลักประกันว่า ผลประโยขน์ทางการค้าจะกระจายไปยังทุกภูมิภาคทั่วโลก