รัฐบาลกาตาร์เปิดเผยว่า ยอดนำเข้าเดือนส.ค.ของกาตาร์พุ่งขึ้นแข็งแกร่งถึง 39.1% เมื่อเทียบรายเดือน สู่ระดับ 8.68 พันล้านริยาล หรือ 2.38 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่า ผลกระทบจากการที่กาตาร์ถูกคว่ำบาตรจากชาติอาหรับนั้น เริ่มลดน้อยลงแล้ว
ก่อนหน้านี้ ยอดการนำเข้าของกาตาร์ร่วงลงอย่างหนัก หลังจากซาอุดิอาระเบีย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ บาห์เรน และอียิปต์ ได้ตัดความสัมพันธ์ทางการทูตและการขนส่งกับกาตาร์เมื่อวันที่ 5 มิ.ย.ที่ผ่านมา โดยกล่าวหาว่า กาตาร์ให้การสนับสนุนกลุ่มก่อการร้าย และอิหร่าน รวมทั้งบ่อนทำลายเสถียรภาพในภูมิภาค
ต่อมาในวันที่ 23 มิ.ย. ชาติอาหรับทั้ง 4 ได้ยื่นข้อเรียกร้อง 13 ข้อต่อกาตาร์ผ่านทางคูเวต ซึ่งหากกาตาร์ปฏิบัติตาม บรรดาชาติอาหรับก็พร้อมที่จะฟื้นฟูความสัมพันธ์ และยกเลิกมาตรการคว่ำบาตร ทางด้านชีคห์ โมฮัมเหม็ด บิน อับดุลราห์มาน อัล-ทานี รมว.ต่างประเทศของกาตาร์ กล่าวว่า กาตาร์พร้อมที่จะทำการเจรจากับชาติอาหรับเพื่อแก้ไขวิกฤตการณ์ทางการทูต ขณะที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐได้ออกมาแสดงความพร้อมในการเป็นคนกลางเจรจาไกล่เกลี่ยความขัดแย้งระหว่างกาตาร์และ 4 ชาติอาหรับ