นายสตีเวน มนูชิน รัฐมนตรีกระทรวงคลังสหรัฐ และนายมิค มัลวานีย์ ผู้อำนวยการสำนักงานการบริหารและงบประมาณ (OMB) เปิดเผยว่า ขณะนี้รัฐบาลยังไม่ได้ตัดสินใจเกี่ยวกับรายละเอียดหลักๆในแผนปฏิรูปภาษีของพรรครีพับลิกัน ด้วยเหตุนี้ จึงยังเร็วเกินไปที่จะด่วนสรุปว่า ใครจะได้รับประโยชน์มากน้อยเพียงไรจากแผนปฏิรูปภาษีฉบับนี้
อย่างไรก็ตาม ทั้งสองยืนยันว่า เป้าหมายสำคัญของแผนปฏิรูปภาษีฉบับนี้ คือการลดภาษีให้กับกลุ่มธุรกิจและผู้ที่มีรายได้ปานกลาง ท่ามกลางเสียงวิพากษ์วิจารณ์ของหลายฝ่ายที่ระบุว่า นโยบายดังกล่าวสร้างขึ้นเพื่อเอื้อประโยชน์ให้กับคนรวย
ขณะเดียวกัน นายมนูชินให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวเอบีซีนิวส์ ว่า กลุ่มคนรวยจะไม่ได้รับการปรับลดภาษี เนื่องจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้แสดงจุดยืนที่ชัดเจนมาตลอดว่า การปฏิรูประบบภาษีเงินได้ของพรรครีพับลิกันมีจุดประสงค์เพื่อลดภาษีให้กับชนชั้นกลาง และเอื้อประโยชน์ให้กับภาคธุรกิจ ซึ่งจะช่วยกระตุ้นจ้างงานและสร้างความมั่งคั่งให้กับประเทศ
เมื่อวันพุธที่ 27 ก.ย.ที่ผ่านมา ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้เปิดเผยมาตรการปฏิรูปภาษี โดยเสนอให้มีการปรับลดภาษีเงินได้นิติบุคคล ลงสู่ระดับ 20% จากปัจจุบันที่ระดับ 35% และลดภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาขั้นสูงสุดลงสู่ระดับ 35% จากปัจจุบันที่ 39.6% โดยมีเป้าหมายที่จะเพิ่มศักยภาพด้านการแข่งขันในระบบเศรษฐกิจของสหรัฐ
นอกเหนือจากการเสนอให้ปรับลดภาษีเงินได้นิติบุคลลแล้ว ปธน.ทรัมป์ยังได้เปิดเผยแผนการปรับลดภาษีสำหรับธุรกิจขนาดเล็ก และยกเลิกนโยบายลดหย่อนภาษีสำหรับบุคคลบางกลุ่ม ซึ่งรวมถึงกลุ่มบุคคลที่ได้ประโยชน์จากนโยบายลดหย่อนภาษีในรัฐที่เป็นฐานเสียงของพรรคเดโมแครต