ผลสำรวจความคิดเห็นของนักวิเคราะห์ซึ่งจัดทำโดยธนาคารกลางเม็กซิโกระบุว่า นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ได้ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของเม็กซิโกในปี 2560 ลงสู่ระดับ 2.1% จากตัวเลขคาดการณ์ก่อนหน้านี้ที่ระดับ 2.15%
นอกจากนี้ นักวิเคราะห์ยังได้ปรับลดคาดการณ์ GDP ในปี 2561 ของเม็กซิโก ลงสู่ระดับ 2.3% จากระดับ 2.4%
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ผลสำรวจดังกล่าวได้จัดทำขึ้นระหว่างวันที่ 19-28 กันยายน ซึ่งเป็นช่วงเวลาหลังจากที่เม็กซิโกเผชิญแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ในวันที่ 7 และ 19 กันยายน โดยเหตุดังกล่าวส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 461 ราย และสร้างความเสียหายรวมมูลค่ากว่า 2 พันล้านดอลลาร์
อย่างไรก็ตาม ธนาคารกลางเม็กซิโกได้ออกแถลงการณ์เกี่ยวกับนโยบายทางการเงินของทางธนาคารเมื่อวันที่ 28 กันยายนที่ผ่านมา โดยยืนยันว่า แผ่นดินไหวทั้ง 2 ครั้งไม่ได้ส่งผลกระทบรุนแรงต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจและอัตราเงินเฟ้อของประเทศ
นักวิเคราะห์กล่าวว่า ปัจจัยต่างๆที่อาจเป็นตัวฉุดรั้งเศรษฐกิจของเม็กซิโกในช่วง 6 เดือนหลังนี้ ได้แก่ สถานการณ์ด้านความมั่นคงของประเทศ ความไม่แน่นอนทางการเมือง กำลังการผลิตน้ำมันที่ลดลง ความอ่อนแอของตลาดเม็กซิโก และแรงกดดันด้านเงินเฟ้อ
ในส่วนของอัตราเงินเฟ้อนั้น ธนาคารกลางเม็กซิโกได้ปรับเพิ่มคาดการณ์ขึ้นสู่ระดับ 6.3% ในปี 2560 เมื่อเทียบกับระดับของเดือนส.ค.ที่ 6.25% โดยธนาคารกลางเม็กซิโกมีเป้าหมายที่จะลดอัตราเงินเฟ้อให้เคลื่อนไหวอยู่ที่ระดับ 3%