นายซันนี เพร์ดู รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรของสหรัฐ แสดงความกระตือรือร้นในการเริ่มการเจรจาการค้าระดับทวิภาคีกับญี่ปุ่นเพื่อส่งเสริมการส่งออกสินค้าเกษตรของสหรัฐ
นายเพร์ดู กล่าวว่า รัฐบาลของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ จะหาทางเจรจาที่เกิดประโยชน์ต่อภาคเกษตรกรรมของประเทศ ให้เหมือนกับที่ออสเตรเลียและสหภาพยุโรปหรืออียูได้รับ ซึ่งเป็นผลพวงจากการทำข้อตกลงการค้ากับญี่ปุ่น"
รมว.เกษตร กล่าวว่า "เราต้องการสร้างปฏิสัมพันธ์ในการเจรจาต่อรองทางการค้ากับญี่ปุ่น ซึ่งจะช่วยลดอุปสรรคและส่งผลดีต่อเราเช่นเดียวกับที่ออสเตรเลีย, ชิลี, อียู, เม็กซิโก และประเทศอื่นๆได้รับ"
นอกจากนี้ รมว.เกษตรสหรัฐยังชี้ว่า ในระหว่างการเจรจาด้านการค้านั้น สหรัฐจะร้องขอให้ญี่ปุ่นลดภาษีนำเข้าเนื้อวัวจากสหรัฐ หลังจากที่ก่อนหน้านี้ญี่ปุ่นได้ลดภาษีนำเข้าเนื้อวัวจากออสเตรเลียตามข้อตกลงการค้าเสรี (FTA) ญี่ปุ่นและออสเตรเลียมาแล้ว
อย่างไรก็ดี หลังจากสาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีเมื่อเดือนม.ค.ที่ผ่านมา ปธน.โดนัลด์ ทรัมป์ ได้ถอนสหรัฐจากข้อตกลงหุ้นส่วนยุทธศาสตร์เศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิก (TPP) ซึ่งเป็นข้อตกลงการค้าเสรีระดับภูมิภาค และหากข้อตกลงดังกล่าวนี้มีผลสำเร็จขึ้นมาโดยมีสหรัฐเข้าร่วมอยู่ด้วยแล้ว จะทำให้ญี่ปุ่นต้องลดภาษีนำเข้าเนื้อวัวสดและเนื้อวัวแช่แข็งลง 38.5% เหลือเพียง 9% ในระยะเวลา 16 ปี
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ปธน.ทรัมป์ได้แสดงจุดยืนในการเจรจาการค้าแบบทวิภาคีมากกว่าการสนับสนุนข้อตกลงการค้าเสรีแบบพหุภาคี