รัฐมนตรีคลังและผู้ว่าการธนาคารกลางของกลุ่มประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำ 7 ประเทศ หรือ G7 ให้คำมั่นว่าจะใช้มาตรการกดดันทางเศรษฐกิจขั้นสูงสุดต่อเกาหลีเหนือ กรณีที่เกาหลีเหนือสร้างภัยคุกคามร้ายแรงด้วยการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์และขีปนาวุธ
รมว.คลังและผู้ว่าแบงก์ชาติจากกลุ่มประเทศ G7 ซึ่งประกอบด้วยสหราชอาณาจักร แคนาดา ฝรั่งเศส เยอรมนี อิตาลี ญี่ปุ่น และสหรัฐอเมริกา ได้ยืนยันว่าจะร่วมมือกันอย่างใกล้ชิดเพื่อกีดขวางความพยายามของเกาหลีเหนือในการหลบเลี่ยงมติคว่ำบาตรของสหประชาชาติ (UN)
"เราเห็นพ้องร่วมกันว่า เราจำเป็นต้องกดดันทางเศรษฐกิจขั้นสูงสุดต่อเกาหลีเหนือ ด้วยการกีดขวางแหล่งที่มาของรายได้ของเกาหลีเหนือ และป้องกันไม่ให้เกาหลืเหนือทำลายระบบการเงินระหว่างประเทศ" นายมาซาสึกุ อาซากาวะ รมว.คลังด้านกิจการต่างประเทศของญี่ปุ่น กล่าวกับผู้สื่อข่าวหลังเสร็จสิ้นการประชุมที่กรุงวอชิงตัน โดยเขาเข้าร่วมการประชุมแทนนายทาโร อาโสะ รมว.คลังญี่ปุ่น
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า มาตรการดังกล่าวนั้นรวมถึงการกีดขวางการค้าทางการเงินที่จะเป็นการส่งเสริมความพยายามของเกาหลีเหนือในการหลบเลี่ยงการคว่ำบาตรของ UN
"การพัฒนาอาวุธอานุภาพทำลายล้างสูงและขีปนาวุธของเกาหลีเหนือสร้างภัยคุกคามขั้นร้ายแรงต่อสันติภาพและความมั่นคงของโลก" นายอาซากาวะกล่าว พร้อมเผยว่าเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นไม่บ่อยนักที่รมว.คลัง G7 เผยข้อเท็จจริงที่ว่าพวกเขาประชุมหารือกันนอกรอบการประชุมของกลุ่ม G20 ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความร่วมแรงร่วมใจของประเทศเศรษฐกิจพัฒนาแล้วในการที่จะเพิ่มแรงกดดันต่อเกาหลีเหนือเพื่อควบคุมพฤติกรรมยั่วยุของประเทศ