นายวลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย ได้ลงนามในกฤษฎีกาเพื่อคว่ำบาตรเกาหลีเหนือ ตามมติ 2321 ของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (UNSC)
นอกจากนี้ รัสเซียได้คว่ำบาตรบุคคลากร 11 คนและบริษัท 10 แห่งที่มีความเกี่ยวข้องกับโครงการนิวเคลียร์และขีปนาวุธของเกาหลีเหนือ
-- สหภาพยุโรป (EU) ประกาศการสนับสนุนข้อตกลงนิวเคลียร์ที่อิหร่านและชาติมหาอำนาจทำไว้ในปี 2558 โดยระบุว่า ข้อตกลงดังกล่าวมีความสำคัญในการป้องกันการแพร่กระจายอาวุธนิวเคลียร์
การประกาศการสนับสนุนข้อตกลงดังกล่าวของ EU มีขึ้น หลังจากที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ประกาศไม่ให้การรับรองต่ออิหร่านในการปฏิบัติตามข้อตกลงนิวเคลียร์ดังกล่าว โดยระบุว่า อิหร่านไม่ได้ปฏิบัติตามข้อตกลงนิวเคลียร์ ขณะที่มีการละเมิดหลายครั้ง
-- สหภาพยุโรป (EU) ประกาศคว่ำบาตรครั้งใหม่ต่อเกาหลีเหนือ เพื่อตอบโต้การพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ และขีปนาวุธ
ทั้งนี้ การตัดสินใจดังกล่าว รวมถึงการสั่งห้ามสมาชิก EU เข้าลงทุนในเกาหลีเหนือ และห้ามการต่ออายุใบอนุญาตทำงานให้แก่ชาวเกาหลีเหนือที่ทำงานใน EU
นอกจากนี้ EU ยังได้ลดวงเงินที่สามารถโอนไปยังเกาหลีเหนือ จาก 15,000 ยูโร สู่ระดับ 5,000 ยูโร และสั่งห้ามการขายน้ำมัน และผลิตภัณฑ์น้ำมันให้แก่เกาหลีเหนือ
-- ผู้พิพากษาการ์เมน ลาเมลา ประจำศาลสูงของสเปน ได้มีคำสั่งจำคุก นายจอร์ดี ซานเชส ผู้นำสมัชชาแห่งแคว้นกาตาลุญญา (ANC) และนายจอร์ดี ซุยซัต ผู้นำกลุ่ม Omnium Cultural โดยไม่ให้ประกันตัว ในข้อหาปลุกระดมฝูงชนให้ต่อต้านรัฐบาลซึ่งกำลังอยู่ระหว่างการสอบสวน
ข้อหาดังกล่าวสืบเนื่องมาจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่เมืองบาร์เซโลนาเมื่อวันที่ 20 ก.ย. โดยบุคคลทั้งสองถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้จัดการประท้วงนอกสำนักงานกระทรวงเศรษฐกิจแคว้นกาตาลุญญาในเมืองบาร์เซโลนา