ธนาคารเพื่อการพัฒนาเอเชีย (ADB) ได้ปรับเพิ่มการคาดการณ์การขยายตัวทางเศรษฐกิจของกลุ่มประเทศกำลังพัฒนาในเอเชียปี 2560 เป็น 5.9% แต่ก็แสดงความกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มด้านต่างๆที่ยังไม่สดใสเท่าไรนัก ซึ่งอาจจะทำให้ภูมิภาคนี้ตกอยู่ในความเสี่ยงที่จะเผชิญกับวิกฤตการเงินในอนาคตได้
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ก่อนหน้านี้ ADB ได้คาดการณ์ไว้ในรายงาน "Asian Integration Report" ซึ่งมีการเผยแพร่เมื่อปีที่แล้วว่า เศรษฐกิจของกลุ่มประเทศกำลังพัฒนาในเอเชียจะขยายตัวเพียง 5.7% โดยนายยาสุยูกิ ซาวาะ หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของ ADB กล่าวว่า การปรับเพิ่มคาดการณ์เศรษฐกิจในครั้งนี้สะท้อนให้เห็นถึงมุมมองของ ADB ที่ว่า แรงผลักดันที่ทำให้เศรษฐกิจในประเทศกลุ่มนี้เติบโตขึ้นนั้น มีความแข็งแกร่งมากขึ้น ขณะเดียวกัน ADB คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจของกลุ่มประเทศกำลังพัฒนาในเอเชียจะขยายตัว 5.8% ในปี 2561 "ในช่วงเวลา 20 ปีหลังจากที่เกิดวิกฤตการเงินในเอเชียนั้น ภูมิภาคเอเชียยังคงยืนหยัดอย่างแข็งแกร่งด้วยอัตราแลกเปลี่ยนที่มีความยืดหยุ่นมากยิ่งขึ้น รวมทั้งทุนสำรองเงินตราต่างประเทศที่สูงขึ้น ระบบการเงินที่ดีขึ้น กฎระเบียบที่แข็งแกร่งขึ้น ตลาดทุนที่แข็งแกร่งขึ้น และกลไกความร่วมมือทางการเงินในภูมิภาคที่ดีขึ้น" รายงานของ ADB ระบุ
อย่างไรก็ดี รายงานของ ADB ได้เตือนว่า การเชื่อมโยงทางการเงินที่เพิ่มขึ้นนั้น อาจจะทำให้เศรษฐกิจมีความอ่อนไหวหรือเปราะบางต่อวิกฤตการณ์ในต่างประเทศ ภาวะเกี่ยวพันทางการเงิน และความเสี่ยงด้านสภาพคล่องที่เป็นผลมาจากการปล่อยกู้ข้ามพรมแดนของธนาคาร
โดยเฉพาะอย่างยิ่งการพึ่งพาตราสารหนี้สกุลเงินดอลลาร์อย่างต่อเนื่องในประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ของเอเชีย ซึ่งทำให้ระบบการเงินในภูมิภาคตกอยู่ในภาวะที่เปราะบางต่อการเปลี่ยนแปลงแบบฉับพลันอันเนื่องมาจากสภาพคล่องของสกุลเงินต่างประเทศไปจนถึงกระแสเงินทุนที่ผันผวน
นอกจากนี้ ADB ยังได้แสดงความกังวลเกี่ยวกับหนี้เสียที่สูงขึ้นในประเทศต่างๆ เช่น จีน อินเดีย บังคลาเทศ อินโดนีเซีย และมองโกเลีย