ธนาคารโลก (เวิลด์แบงก์) คาดการณ์ว่า ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ทั่วโลกจะปรับตัวขึ้นอีกในปี 2561 เมื่อประเมินจากอุปสงค์ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และข้อตกลงปรับลดการผลิตน้ำมันของบรรดาประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน
ธนาคารโลกได้เปิดเผยรายงาน "Commodity Markets Outlook" ซึ่งเผยแพร่เป็นรายไตรมาส โดยคาดว่า ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกจะปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 56 ดอลลาร์/บาร์เรลในปี 2561 จากระดับ 53 ดอลลาร์ในปีนี้ โดยความต้องการน้ำมันที่แข็งแกร่ง ประกอบกับการปรับลดกำลังการผลิตของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และประเทศผลิตน้ำมันนอกกลุ่มโอเปกนั้น เป็นปัจจัยที่พยุงราคาน้ำมันให้สูงขึ้น ถึงแม้ว่าการผลิตน้ำมันจากชั้นหินดินดานในสหรัฐมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นก็ตาม
ขณะเดียวกันธนาคารโลกคาดการณ์ว่า ราคาสินค้าโภคภัณฑ์กลุ่มพลังงาน ได้แก่ น้ำมัน ก๊าซธรรมชาติ และถ่านหิน จะปรับตัวเพิ่มขึ้น 4% ในปี 2561 หลังจากที่พุ่งขึ้น 28% ในปีนี้ ขณะที่ราคาโลหะจะทรงตัวในปีหน้า หลังจากที่พุ่งขึ้น 22% ในปีนี้
ส่วนราคาสินค้าโภคภัณฑ์เกษตรคาดว่าจะขยับขึ้น 1.2% ในปี 2561 เนื่องจากอุปทานปรับตัวลดลง ส่วนราคาธัญพืช น้ำมันประกอบอาหาร และกากเมล็ดพืช จะเพิ่มขึ้นเล็กน้อย
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ธนาคารโลกยังระบุด้วยว่า ตลาดอาหารส่วนใหญ่มีอุปทานเพียงพอ และคาดว่า อัตราส่วนสต็อกต่อปริมาณการใช้ธัญพืชบางประเภทนั้น จะแตะระดับสูงสุดในรอบหลายปี ซึ่งจะสกัดราคาสินค้าเกษตรไม่ให้สูงขึ้นมากเกินไป