สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ (S&P) ปรับเพิ่มอันดับความน่าเชื่อถือของอิตาลีขึ้นสู่ระดับ BBB จากระดับ BBB- พร้อมกับให้แนวโน้มความน่าเชื่อถือ "มีเสถียรภาพ" โดยระบุว่า เศรษฐกิจอิตาลีฟื้นตัวขึ้นเพราะได้ปัจจัยหนุนจากความแข็งแกร่งของตัวเลขจ้างงานและการลงทุนในภาคเอกชน รวมทั้งการที่รัฐบาลดำเนินนโยบายปรับลดการขาดดุลงบประมาณ
--ทางการญี่ปุ่นเปิดเผยในวันนี้ว่า ยอดค้าปลีกเดือนก.ย. พุ่งขึ้น 2.2% เมื่อเทียบเป็นรายปี หลังจากที่ปรับตัวขึ้นเพียง 1.8% ในเดือนส.ค. โดยยอดค้าปลีกเดือนก.ย.ของญี่ปุ่นทำสถิติขยายตัวติดต่อกันเป็นเดือนที่ 11
--ประชาชนชาวสเปนนับแสนคนได้ออกมาเดินขบวนในเมืองบาร์เซโลนา เมืองเอกของแคว้นกาตาลุญญา เพื่อแสดงจุดยืนสนับสนุนความเป็นหนึ่งเดียวของสเปน หลังจากรัฐสภาแคว้นกาตาลุญญามีมติประกาศแยกตัวเป็นเอกราชจากสเปนเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา
--นายโรดริโก ดูเตอร์เต ประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ ได้เรียกร้องให้รัฐบาลญี่ปุ่นและเกาหลีใต้เปิดการเจรจากับนายคิม จอง อึน ผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือ เพื่อให้ยุติโครงการทดสอบขีปนาวุธและอาวุธนิวเคลียร์ ก่อนที่จะเดินทางเยือนญี่ปุ่นในวันนี้
--สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานโดยอ้างแหล่งข่าววงในว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐ มีแนวโน้มที่จะเลือกนายเจอโรม พาวเวล ผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ขึ้นดำรงตำแหน่งประธานเฟดคนใหม่ ต่อจากนางเจเน็ต เยลเลน ซึ่งจะครบวาระการดำรงตำแหน่งในเดือนก.พ.ปีหน้า
--นายมาซูด บาร์ซานี ผู้นำรัฐบาลภูมิภาคเคอร์ดิสถาน ทางตอนเหนือของอิรัก ได้ประกาศว่าจะลาออกจากตำแหน่งในวันที่ 1 พ.ย.นี้ หลังการลงประชามติแยกตัวเป็นอิสระจากอิรักได้ส่งผลให้เกิดวิกฤตการณ์ในภูมิภาค
--ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ได้เปิดฉากการประชุมซึ่งจัดขึ้นเป็นเวลา 2 วันแล้วในวันนี้ โดยคาดว่าคณะกรรมการบริหารของธนาคารกลางญี่ปุ่น จะปรับลดการคาดการณ์เงินเฟ้อของปีงบประมาณปัจจุบัน ในขณะที่อัตราการเติบโตของค่าจ้างยังคงอยู่ในภาวะที่จำกัด และการใช้จ่ายภาคครัวเรือนยังคงอยู่ในภาวะที่ซบเซา ซึ่งปัจจัยเหล่านี้ส่งผลกระทบต่อการขยายตัวของราคา
--บริษัทโกเบ สตีล ผู้ผลิตเหล็กรายใหญ่ของญี่ปุ่น ประกาศงดการจ่ายเงินปันผลประจำไตรมาสเดือนเม.ย.-ก.ย. นอกจากนี้ โกเบ สตีล ยังได้ปรับลดคาดการณ์ผลกำไรประจำปีงบการเงิน 2560
--ธนาคารกลางจีน (PBOC) เดินหน้าอัดฉีดเงินเข้าสู่ตลาดผ่านการดำเนินงานทางตลาดเงิน (Open Market Operations) ในวันนี้ เพื่อบรรเทาสภาพคล่องที่ตึงตัว
ทั้งนี้ ธนาคารกลางจีนได้อัดฉีดเม็ดเงินจำนวน 1.5 แสนล้านหยวน (ประมาณ 2.27 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ) เข้าสู่ระบบการเงิน ผ่านทางข้อตกลง reverse repo ซึ่งเป็นกระบวนการที่ธนาคารกลางเข้าซื้อหลักทรัพย์จากธนาคารพาณิชย์ด้วยข้อตกลงที่จะขายคืนในอนาคต
--เอชเอสบีซี โฮลดิ้งส์ เปิดเผยกำไรสุทธิไตรมาส 3 ปีนี้ที่ระดับ 3.24 พันล้านดอลลาร์ เมื่อเทียบกับไตรมาส 3 ปีที่แล้วที่ธนาคารมีตัวเลขขาดทุน 204 ล้านดอลลาร์ โดยผลประกอบการในไตรมาส 3 ปีนี้ได้รับแรงหนุนจากกำไรที่เพิ่มขึ้นของ 3 ธุรกิจหลักทั่วโลก