นายโจว เสี่ยวฉวน ผู้ว่าการธนาคารกลางจีน (PBOC) เปิดเผยว่า ระบบการเงินของจีนกำลังอยู่ในภาวะเปราะบาง และมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้น แม้ว่าภาพรวมของระบบการเงินจีนจะอยู่ในสภาวะที่ดีก็ตาม
การแสดงความเห็นของนายโจวได้ถูกเผยแพร่ผ่านเว็บไซต์ธนาคารกลางจีน โดยนายโจวกล่าวว่า ความเสี่ยงที่เกิดขึ้นอาจมีลักษณะที่ "ซับซ้อน สร้างผลกระทบ และอันตราย" พร้อมกับเสนอแนะให้ทางจีนดำเนินมาตรการอย่างเข้มงวด และผลักดันให้ตลาดมีส่วนผลักดันเศรษฐกิจให้มากขึ้น
นอกจากนี้ นายโจวกล่าวว่า รัฐบาลควรจะเปิดตลาดให้กว้างมากขึ้น โดยการผ่อนคลายมาตรการควบคุมเงินทุน และลดกฎระเบียบสำหรับสถาบันการเงินต่างชาติที่ต้องการจะเข้ามาดำเนินงานในจีน
นายโจวได้เคยเตือนก่อนหน้านี้ว่า บริษัทเอกชนของจีนมีหนี้สินที่สูงเกินไป โดยหนี้สินของบริษัทเอกชนจีนนั้น ครอบคลุมถึงเงินกู้จากโครงการจัดสรรเงินกู้ของรัฐบาลท้องถิ่น
ทั้งนี้ หนี้สินภาคเอกชนของจีนที่พุ่งสูงขึ้นถือเป็นหนึ่งในประเด็นที่สร้างความวิตกกังวลแก่นักลงทุนและเจ้าหน้าที่กำหนดนโยบายทั่วโลก โดยเมื่อวันที่ 10 ต.ค.ที่ผ่านมา IMF ได้ปรับเพิ่มคาดากรณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจจีนในปีนี้สู่ระดับ 6.8% อย่างไรก็ตาม IMF เตือนว่า การขยายตัวของเศรษฐกิจจีนเกิดขึ้นในช่วงเวลาเดียวกับปัญหาหนี้สินที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งอาจจะสร้างความเสี่ยงต่อระบบเศรษฐกิจจีน