ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน กล่าวสุนทรพจน์ในการประชุมผู้นำกลุ่มความร่วมมือทางเศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิก (เอเปค) ครั้งที่ 25 ในวันนี้ โดยแสดงจุดยืนสนับสนุนความร่วมมือและการเปิดกว้างทางเศรษฐกิจ
ทั้งนี้ ปธน.สีขึ้นเวทีกล่าวสุนทรพจน์ต่อจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐ ที่ได้กล่าวสนับสนุนการเปิดกว้างทางเศรษฐกิจเช่นกัน แต่เป็นการพูดในแนวทางที่แข็งกร้าว พร้อมกับโจมตีประเทศที่ปธน.ทรัมป์มองว่า "ล่วงละเมิดทางการค้า"
ปธน.สีกล่าวว่า ในช่วง 2-3 ทศวรรษที่ผ่านมา โลกาภิวัตน์ทางเศรษฐกิจมีส่วนช่วยให้เศรษฐกิจโลกเติบโต ซึ่งอันที่จริงถือเป็นการเปลี่ยนแปลงทางประวัติศาสตร์ที่ไม่มีวันย้อนกลับ พร้อมกับเสนอให้ประเทศต่างๆ เดินหน้าโลกาภิวัตน์ทางเศรษฐกิจที่เปิดกว้างมากขึ้น เป็นองค์รวมมากขึ้น สมดุลมากขึ้น เที่ยงธรรมมากขึ้น และเป็นประโยชน์ต่อผู้คนทั้งมวล ขณะที่จีนเองก็จะเดินหน้าเปิดกว้างและปฏิรูปประเทศต่อไปเช่นกัน
ส่วนในประเด็นเศรษฐกิจจีน นายสีกล่าวว่า เศรษฐกิจจีนขยายตัวเฉลี่ย 7.2% ต่อปี ซึ่งมีส่วนช่วยให้เศรษฐกิจโลกขยายตัว 30% ในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา เขากล่าวว่า จีนจะมียอดรวมลงทุนในต่างแดนแตะ 2 ล้านล้านดอลลาร์ใน 15 ปีข้างหน้า และในช่วงเวลาเดียวกันนี้ คาดว่าจีนจะนำเข้าสินค้าเป็นมูลค่า 24 ล้านล้านดอลลาร์
นอกจากนี้ ปธน.สีกล่าวว่า จีนจะเป็นเสาหลักด้านสันติภาพและเสถียรภาพในเอเชียแปซิฟิกและภูมิภาคอื่นๆ
ถ้อยแถลงของผู้นำจีนมีขึ้นหลังจากที่จีนได้ประกาศใช้มาตรการเฉพาะทาง เพื่อผ่อนคลายหรือยกเลิกข้อจำกัดด้านการลงทุนของบริษัทต่างชาติในตลาดการเงินของประเทศ
รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังของจีนเปิดเผยในการแถลงข่าววันนี้ว่า ธุรกิจต่างชาติจะได้รับอนุญาตให้ถือครองหุ้นได้สูงสุด 51% ของบริษัทร่วมทุนในกลุ่มธุรกิจหลักทรัพย์ กองทุน และสัญญาล่วงหน้า
รมช.คลังจีนกล่าวด้วยว่า ข้อจำกัดเรื่องการถือครองหุ้นของนักลงทุนต่างชาติในธนาคารและบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนของจีนนั้น จะถูกยกเลิกด้วยเช่นกัน ภายหลังจากที่ประธานาธิบดีจีนและสหรัฐได้เห็นชอบแนวคิดดังกล่าวในระหว่างการประชุมร่วมกันเมื่อวานนี้