เกิดแผ่นดินไหวรุนแรง 7.3 แมกนิจูดที่บริเวณชายแดนระหว่างอิหร่านและอิรัก เมื่อวานนี้ตามเวลาท้องถิ่น หรือในช่วงเช้าตรู่วันนี้ตามเวลาไทย ส่วนผลให้มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 100 คนในอิหร่าน และมีผู้บาดเจ็บอย่างน้อย 1,000 คน ส่วนในประเทศอิรัก มีผู้เสียชีวิต 4 คน และมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีกจำนวนมาก
-- ตลาดการเงินยังคงจับตาความคืบหน้าเกี่ยวกับร่างกฎหมายปฏิรูปภาษีของสหรัฐ โดยนักลงทุนส่วนใหญ่วิตกกังวลเกี่ยวกับความล่าช้าในการบังคับใช้กฎหมายดังกล่าว หลังจากมีรายงานข่าวว่า สมาชิกพรรครีพับลิกันในวุฒิสภาเสนอให้มีการชะลอการปรับลดภาษีเงินได้นิติบุคคลจาก 35% สู่ระดับ 20% ออกไปอีก 1 ปี จนถึงปี 2562
ขณะที่สมาชิกพรรครีพับลิกันในวุฒิสภาได้เปิดเผยร่างกฎหมายปฏิรูปภาษีฉบับของวุฒิสภา ซึ่งเนื้อหาหลักในร่างกฎหมายมีความแตกต่างจากฉบับของสภาผู้แทนราษฎร จึงส่งผลให้เกิดความไม่แน่แนอนว่า วุฒิสภาและสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐจะสามารถประสานความแตกต่างในเนื้อหาเหล่านี้ให้ลงตัวได้หรือไม่
-- นายเควิน เบรดี ประธานคณะกรรมาธิการพิจารณาวิธีการจัดหารายได้ของสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ ยืนยันว่า เขาจะไม่ยอมประนีประนอมกับวุฒิสภาในเรื่องการยกเลิกกฎเกณฑ์ลดหย่อนภาษีระดับมลรัฐและภาษีระดับท้องถิ่น (SALT) ในร่างกฎหมายปฏิรูปภาษีฉบับสุดท้ายของสภาคองเกรสอย่างแน่นอน นอกจากนี้เขายังแสดงจุดยืนคัดค้านข้อเสนอจากสมาชิกพรรครีพับลิกันในวุฒิสภาที่ขอให้ขึ้นภาษีชนชั้นกลางบางกลุ่มในสหรัฐอีกด้วย
นายเบรดี กล่าวในรายการ “Fox News Sunday” ของสถานีโทรทัศน์ฟ็อกซ์ นิวส์ ว่า เขาจะปฏิเสธข้อเสนอของสมาชิกรีพับลิกันในวุฒิสภาที่ขอให้ยกเลิกกฎลดหย่อนภาษี SALT ทั้งหมด แม้ว่าจะเป็นประเด็นสำคัญที่พรรครีพับลิกันต้องการเข้าไปแก้ไข เพื่อจัดหารายได้เข้าคลังชดเชยการปรับลดอัตราภาษีเงินได้นิติบุคคลขนานใหญ่
-- การเดินทางเยือน 5 ประเทศเอเชียของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐ ยังคงเป็นประเด็นที่ตลาดให้ความสนใจ โดยทรัมป์ได้เดินทางถึงประเทศฟิลิปปินส์เมื่อวานนี้ตามเวลาท้องถิ่น เพื่อเข้าร่วมการประชุมกับบรรดาผู้นำประเทศในกลุ่มสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน)
ส่วนเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ทรัมป์ได้เดินทางไปเยือนญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และจีน โดยที่ญี่ปุ่นนั้น ทรัมป์ได้มีโอกาสเข้าเฝ้าสมเด็จพระจักรพรรดิอากิฮิโตะ และสมเด็จพระจักรพรรดินีมิชิโกะ ที่พระราชวังอิมพีเรียล และยังได้ขึ้นกล่าวสุนทรพจน์ร่วมกับนายชินโซ อาเบะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น นอกจากนี้ ทรัมป์ยังได้รับเชิญให้ขึ้นกล่าวสุนทรพจน์ที่รัฐสภาเกาหลีใต้ และได้รับการต้อนรับอย่างยิ่งใหญ่จากประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีน ณ มหาศาลาประชาคม
-- เกาหลีเหนือได้ออกมาประณามถ้อยแถลงของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ในระหว่างการกล่าวสุนทรพจน์ที่รัฐสภาเกาหลีใต้เมื่อช่วงกลางสัปดาห์ที่แล้ว โดยระบุว่า "ไร้สาระ" ซึ่งถือเป็นปฏิกริยาแรกของเกาหลีเหนือต่อผู้นำสหรัฐ ซึ่งอยู่ระหว่างการเดินสายเยือนหลายประเทศในเอเชียอย่างเป็นทางการรวม 11 วัน
ทั้งนี้ ประธานาธิบดีทรัมป์ได้ขึ้นกล่าวสุนทรพจน์ที่รัฐสภาเกาหลีใต้เมื่อวันพุธที่แล้ว ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของการเยือนเกาหลีใต้เป็นเวลา 2 วัน โดยในระหว่างการกล่าวสุนทรพจน์ดังกล่าว ทรัมป์ได้ประณามเกาหลีเหนือที่ปฏิบัติต่อประชาชนในประเทศอย่างไร้ความปราณี ไม่ว่าจะเป็นการทรมาน การข่มขืนใจ และความอดอยาก ทั้งยังได้ส่งสัญญาณไปยังเกาหลีเหนือว่า อย่าประเมินสหรัฐต่ำเกินไป และ "อย่าลองดีกับเรา"
-- นักลงทุนในตลาดการเงินจับตาการกล่าวสุนทรพจน์ของบรรดาผู้ว่าการธนาคารกลางทั่วโลก ในการประชุมซึ่งจัดขึ้นโดยธนาคารกลางยุโรป (ECB) ที่กรุงแฟรงค์เฟิร์ต ประเทศเยอรมนี ในวันอังคารที่ 14 พ.ย.นี้
การประชุมดังกล่าวจัดขึ้นภายใต้หัวข้อ "Communication challenges for policy effectiveness, accountability and reputation" โดยมีนายมาริโอ ดรากี ประธาน ECB, นางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด), นายมาร์ค คาร์นีย์ ผู้ว่าการธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) และนายฮารุฮิโกะ คุโรดะ ผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) เข้าร่วมด้วย
-- นายชินโซ อาเบะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น และผู้จำกลุ่มประเทศอาเซียน มีกำหนดพบปะหารือกันที่กรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ในวันนี้ โดยจะมีการพูดคุยกันในประเด็นการเปิดเศรษฐกิจและการค้าเสรี ร่วมทั้งความร่วมมือกันในอนาคต
ส่วนในช่วงบ่ายวันนี้ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นและผู้นำประเทศกลุ่มลุ่มแม่น้ำโขง ซึ่งได้แก่ ไทย กัมพูชา สปป.ลาว และเวียดนาม จะหารือกันเกี่ยวกับกรณีที่ญี่ปุ่นจะเข้ามามีบทบาทในการพัฒนาในภูมิภาค ซึ่งรวมถึงการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐาน
-- ทางการญี่ปุ่น มาเลเซีย และจีนจะเปิดเผยข้อมูลเศษฐกิจที่สำคัญในวันนี้ โดยญี่ปุ่นจะเปิดเผยดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนต.ค., ขณะที่ทางการจีนจะเปิดเผยการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) เดือนต.ค. และมาเลเซียจะเปิดเผยอัตราว่างงานเดือนก.ย.
-- ส่วนในวันพรุ่งนี้ ทางการจีนจะเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญหลายรายการ ซึ่งได้แก่ ยอดค้าปลีกเดือนต.ค., การผลิตภาคอุตสหกรรมเดือนต.ค. และการลงทุนในสินทรัพย์ถาวรเดือนต.ค. ทางด้านเยอรมนีจะเปิดเผยผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ไตรมาส 3 และอัตราเงินเฟ้อเดือนต.ค. ขณะที่อังกฤษจะเปิดเผยอัตราเงินเฟ้อเดือนต.ค.
ทางด้านยูโรสแตทจะเปิดเผยผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ไตรมาส 3 ของประเทศอียู และการผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนก.ย.ของอียู ส่วนในสหรัฐนั้น จะมีการเปิดเผยดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนต.ค.