รายงานแนวโน้มเศรษฐกิจโลกประจำปี 2561 ฉบับล่าสุดของคอนเฟอเรนซ์ บอร์ด ระบุว่า เศรษฐกิจโลกน่าจะยังคงขยายตัวต่อเนื่องจากปัจจุบัน โดยคาดการณ์ว่าจะขยายตัว 3% ในปี 2561 หลังจากที่เติบโตเหนือการคาดการณ์ในปี 2560
"เศรษฐกิจโลกเริ่มดีดตัวขึ้นแล้วนับตั้งแต่ช่วงวิกฤติเศรษฐกิจและการเงินโลก" บาร์ท แวน อาร์ค หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของคอนเฟอเรนซ์ บอร์ด กล่าว "ส่วนการขยายตัวของ GDP ซึ่งเมื่อปีที่ผ่านมาเราเคยคาดการณ์ไว้ว่าจะขยายตัว 2.8% ขณะนี้น่าจะขยายตัวราว 3% ในปี 2560 และต่อเนื่องจนถึงปี 2561"
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า เศรษฐกิจที่ขยายตัวเล็กน้อยในปี 2560 นั้นสะท้อนถึงปัจจัยหลายๆอย่างรวมกัน ทั้งเสถียรภาพด้านราคาพลังงานและสินค้าโภคภัณฑ์ ความเชื่อมั่นที่เพิ่มขึ้นในภาคธุรกิจอันเป็นผลจากความคาดหวังเกี่ยวกับนโยบายกระตุ้นทางการคลังและแผนปฏิรูปภาษีของรัฐบาลสหรัฐภายใต้การนำของปธน.ทรัมป์ การฟื้นตัวตามวัฏจักรในยุโรป และนโยบายกระตุ้นการเติบโตแบบอิงนโยบายของจีน
รายงานดังกล่าวยังระบุถึงปัจจัยขับเคลื่อนหลายๆประการที่อาจมีส่วนช่วยส่งเสริมคุณภาพของการเติบโต และหนุนให้เศรษฐกิจมีความยั่งยืนยิ่งขึ้นในทศวรรษหน้า
นายแวน อาร์ค กล่าวว่า "ข่าวดีคือ เมื่อปัจจัยกระตุ้นการเติบโตในเชิงคุณภาพ เช่น พัฒนาการของทักษะแรงงาน เทคโนโลยีดิจิทัล และความแข็งแกร่งของผลิตภาพนั้นเข้ามามีบทบาทเพิ่มขึ้นแล้ว สิ่งนี้อาจช่วยรองรับการเติบโต และเปิดโอกาสให้ภาคธุรกิจเจริญเติบโตต่อไปในทศวรรษหน้า"
การขาดแคลนแรงงานอาจช่วยให้มีการลงทุนเพิ่มขึ้นในภาคส่วนต่างๆที่แรงงานหายาก ความเข้มข้นของทุนที่เพิ่มขึ้นนี้เป็นปัจจัยกระตุ้นการเติบโตของผลผลิตทางแรงงาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุโรป สหรัฐอเมริกา และเศรษฐกิจอื่นที่โตเต็มที่แล้ว
นอกจากนี้ การเติบโตของเม็ดเงินลงทุนยังมีปัจจัยหนุนจากความก้าวหน้าในเรื่อง "คุณภาพ" ของเงินทุนด้วย ซึ่งเป็นผลจากการที่ธุรกิจหันไปลงทุนด้านเครื่องจักรและอุปกรณ์กันมากขึ้น และหันไปให้ความสนใจมากขึ้นในเรื่องสินทรัพย์และบริการแบบดิจิทัล