S&P เผยภาคเอกชนเม็กซิโกแข็งแกร่งพอรับมือกับผลกระทบหาก NAFTA ถูกยกเลิก

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday November 16, 2017 11:29 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือสแตนดาร์ดแอนด์พัวร์ (S&P) เปิดเผยว่า ภาคเอกชนของเม็กซิโกมีความแข็งแกร่งเพียงพอที่จะรับมือกับผลกระทบทางเศรษฐกิจ แม้จะมีการยกเลิกความตกลงการค้าเสรีอเมริกาเหนือ (NAFTA) ก็ตาม

S&P ระบุว่า อุตสาหกรรมที่ถูกขับเคลื่อนโดยการใช้จ่ายของผู้บริโภคจะได้รับผลกระทบอย่างหนักหากข้อตกลง NAFTA ระหว่าง เม็กซิโก สหรัฐ และแคนาดาสิ้นสุดลง อย่างไรก็ดี จะมีปัจจัยอื่นที่จะสามารถเข้ามาทดแทนได้

หากการถอนตัวออกจาก NAFTA จะทำให้ความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนเพิ่มสูงขึ้น จะส่งผลให้ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของเม็กซิโกร่วงลงอย่างรวดเร็ว ปัจจัยนี้จะส่งผลต่อการตัดสินใจของผู้บริโภค

จากนั้นก็จะส่งผลให้มีการปรับคาดการณ์การเติบโตของธุรกิจบริษัทต่าง ๆ ที่ทำธุรกิจผลิตสินค้าเพื่อการบริโภคและธุรกิจค้าปลีก

อย่างไรก็ดี อัตราการเติบโตของสินเชื่อเพื่อการอุปโภคบริโภคที่ทรงตัว บวกกับจำนวนเงินรายได้ที่ถูกส่งกลับเข้าประเทศโดยชาวเม็กซิกันที่ไปทำงานต่างประเทศและอยู่ที่ระดับสูงเป็นประวัติการณ์ และอัตราการว่างงานในระดับต่ำ จะช่วยทดแทนความเสี่ยงที่เกิดขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงด้านการค้า

นอกจากนี้ ผู้ผลิตสินค้าเพื่อการบริโภคยังได้ลงทุนในตลาดที่หลากหลายมากขึ้น ซึ่งหมายความว่า กลุ่มผู้ผลิตมีความเสี่ยงน้อยมากที่จะได้รับผลกระทบอย่างหนักจากความเปลี่ยนแปลงทั้งด้านผลผลิตและการส่งออก

ขณะที่ภาคอสังหาริมทรัพย์อาจจะได้รับผลกระทบระดับกลาง เนื่องจากอุปสงค์ในพื้นที่สำหรับการทำอุตสาหกรรมอาจปรับตัวลดลง

นอกจากการคาดการณ์ข้างต้นแล้ว S&P ยังระบุด้วยว่า ทั้งสามประเทศจะสามารถเจรจาและแก้ไขข้อตกลง NAFTA ได้ เพื่อเป็นการรักษาความสัมพันธ์ด้านการค้าและการลงทุนที่เริ่มต้นขึ้นมาตั้งแต่การลงนามครั้งแรกในปี 2537

S&P ระบุว่า หากมีการยกเลิกข้อตกลง NAFTA การค้าระหว่างสามประเทศก็จะยังส่งผลดีต่อเศรษฐกิจ และการผลิตที่คุ้มค่าเช่นเดิม เนื่องจากการควบรวมห่วงโซ่อุปทานในภูมิภาคอเมริกาเหนือที่แน่นแฟ้น สำนักข่าวซินหัวรายงาน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ