กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) เปิดเผยว่า เศรษฐกิจของเมียนมากำลังดีดตัวขึ้น และคาดว่า จะขยายตัวถึง 6.7% ในปีงบประมาณปัจจุบันที่จะสิ้นสุดลงในเดือนมี.ค.ปีหน้า แม้ว่า จะเกิดวิกฤตผู้อพยพโรฮิงญาก็ตาม
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า แถลงการณ์ที่ได้มีการเปิดเผยที่เมียนมาของคณะทำงานที่อยู่ภายใต้การดูแลของชานากา เพริส ระบุว่า การดีดตัวของเศรษฐกิจนั้น ส่วนใหญ่จะได้รับการสนับสนุนจากการฟื้นตัวในภาคการเกษตร การส่งออก และภาวะไร้สมดุลของเศรษฐกิจมหภาคที่ดีขึ้น
ชานากา กล่าวว่า รัฐบาลชุดใหม่ของเมียนมาภายใต้การนำของนางอองซาน ซูจี นั้น เป็นขวบปีแรกที่ท้าทาย แต่สถานการณ์ทางเศรษฐกิจก็ปรับตัวขึ้นนับจากนั้น ด้วยผลประกอบการที่ดีจากการสร้างความแข็งแกร่งทางการคลัง เงินเฟ้อ และการลงทุนจากต่างประเทศ
สำหรับผลกระทบของวิกฤตผู้ลี้ภัยนั้น ชานากาได้เตือนว่า เหตุขัดแย้งภายในและวิกฤตมนุษยธรรมในรัฐยะไข่นั้น อาจจะส่งผลกระทบต่อสถานการณ์ด้านการเงินและบรรยากาศการลงทุนได้ แม้ว่า ผลกระทบโดยตรงต่อเศรษฐกิจดูเหมือนว่า จะเกิดขึ้นแค่ในระดับท้องถิ่นก็ตาม