สหพันธ์ค้าปลีกแห่งชาติสหรัฐ (NRF) คาดการณ์ว่า ยอดค้าปลีกช่วงวันหยุดตามเทศกาลในสหรัฐน่าจะยังคงเติบโตอย่างคึกคักในเดือนพ.ย.-ธ.ค. ของปีนี้
ก คาดการณ์ว่า ยอดค้าปลีกช่วงวันหยุดตามเทศกาล ซึ่งไม่นับรวมยานยนต์ น้ำมันเชื้อเพลิง และร้านอาหารนั้น น่าจะปรับตัวเพิ่มขึ้น 3.6-4% แตะ 6.7875-6.82 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ตัวเลขคาดการณ์ครั้งนี้ใกล้เคียงกับเมื่อปีที่ผ่านมาที่คาดการณ์ไว้ว่าจะขยายตัว 3.6% และเกินค่าเฉลี่ยรอบ 5 ปีที่ 3.5%
แจ็ค ไคลน์เฮนส์ หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของ NRF เปิดเผยผ่านข่าวประชาสัมพันธ์ว่า "ผู้บริโภคยังคงเป็นกลไกสำคัญในการสนับสนุนการเติบโตของเศรษฐกิจสหรัฐ และปัจจัยพื้นฐานทุกๆด้านในขณะนี้ก็เอื้ออำนวยให้ผู้บริโภคยังคงเป็นแรงขับเคลื่อนหลักในช่วงวันหยุดเทศกาล"
เขากล่าวเสริมว่า "ภาวะการจ้างงานที่ฟื้นตัวขึ้น เงินเฟ้อที่ค่อนข้างต่ำ และการเพิ่มขึ้นของมูลค่าสินทรัพย์ ล้วนแล้วแต่เป็นปัจจัยที่ทำให้ผู้บริโภคมีศักยภาพและมีความเชื่อมั่นในการใช้จ่าย"
การใช้จ่ายในกลุ่มผู้บริโภคชาวสหรัฐนั้นได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา โดยข้อมูลล่าสุดจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขการใช้จ่ายเพื่อการอุปโภคบริโภคส่วนบุคคลได้ปรับตัวขึ้น 1% ในเดือนก.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการเติบโตที่แข็งแกร่งที่สุดเมื่อเทียบเป็นรายเดือนนับตั้งแต่ปี 2552
นอกจากนี้ รายงานอีกฉบับของ NRF ยังแสดงให้เห็นด้วยว่า ขณะที่ยอดการใช้จ่ายของผู้บริโภคส่วนใหญ่ในช่วงเทศกาลวันหยุดปีนี้ ไม่แตกต่างจากปีก่อน แต่กลุ่มผู้ที่มีอายุในช่วง 18-24 ปีนั้น เป็นกลุ่มที่มีความเป็นไปได้มากที่สุดที่จะใช้จ่ายมากขึ้น
รายงานจาก NRF ยังระบุด้วยว่า 54% ของผู้บริโภคที่ได้รับการสำรวจในครั้งนี้ มีแผนที่จะใช้จ่ายในจำนวนเงินที่ไม่แตกต่างจากปีที่แล้ว ขณะที่ 24% มีแผนใช้จ่ายมากขึ้น อย่างไรก็ดี 46% ของผู้ตอบแบบสำรวจในกลุ่มอายุ 18-24 ปี มีแผนใช้จ่ายเป็นเงินมากกว่าปีที่ผ่านมา
ทางด้านธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาแอตแลนต้าระบุว่า เมื่อประเมินจากแนวโน้มยอดค้าปลีกที่ส่งสัญญาณแข็งแกร่งนี้แล้ว ทำให้สามารถคาดการณ์ได้ว่า เศรษฐกิจสหรัฐน่าจะขยายตัว 3.4% ในไตรมาสสี่ของปีนี้ ซึ่งเพิ่มขึ้นจากเมื่อไตรมาสสามที่ขยายตัว 3%