นายเจี้ย คัง หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์จากสถาบัน China Academy of New Supply-side Economics เปิดเผยว่า จีนจำเป็นจะต้องพัฒนาระบบการใช้ปัจจัยหลายชนิดมาเป็นตัวบ่งชี้คุณภาพการเติบโตของเศรษฐกิจ แม้ว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) จะยังคงมีความสำคัญในแง่ของขนาดเศรษฐกิจ แต่ก็ไม่ใช่ปัจจัยที่มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงหรือเป็นตัวบ่งชี้ประสิทธิภาพในระดับโครงสร้าง
"จีนได้วางเป้าหมายที่จะนำประเทศไปสู่ความทันสมัยตามแบบสังคมนิยมภายให้ได้ภายในปี 2578 และจะสร้างประเทศให้เป็นประเทศสังคมนิยมที่ทันสมัยอันยิ่งใหญ่ให้ได้ภายในครึ่งศตวรรษนี้ เป้าหมายเหล่านี้จำป็นจะต้องใช้ปัจจัยต่าง ๆ เป็นตัวบ่งชี้ ซึ่งในขณะนี้ ปัจจัยเหล่านั้นยังไม่มีอยู่จริง" นายเจี้ยกล่าวในระหว่างการอภิปรายที่งานประชุมประจำปีไฉจิง
ยกตัวอย่างเช่น การก่อสร้างระบบรถไฟในเมืองมักจะได้รับค่าตอบแทนที่ไม่มากพอที่จะชดเชยค่าใช้จ่าย แต่ก็นำมาซึ่งผลประโยชน์ต่อสังคมอันเป็นการอ้างอิงเพื่อสร้างแรงจูงใจของรัฐบาลได้
นายเจี้ยกล่าวด้วยว่า การใช้พลังงานต่อ GDP ถือเป็นตัวอย่างที่ดี และควรมีปัจจัยอื่น ๆ ที่มีลักษณะเช่นนี้มาใช้เป็นตัวชี้วัดประสิทธิภาพทางเศรษฐกิจด้วยเช่นกัน สำนักข่าวซินหัวรายงาน