นักวิเคราะห์ของสหรัฐได้แสดงความกังวลต่อกรณีที่กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ได้ตัดสินใจขยายเวลาในการปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันออกไปอีก 9 เดือนจนถึงปลายปีหน้า
จอน เทย์เลอร์ ศาสตราจารย์ประจำภาควิชารัฐศาสตร์จากมหาวิทยาลัยเซนต์ โธมัส ในเมืองฮุสตัน เปิดเผยกับสำนักข่าวซินหัวว่า "แม้กลุ่มโอเปกตัดสินใจขยายระยะเวลาปรับลดกำลังการผลิต แต่ผลกระทบในด้านบวกอาจจะไม่ยืนยาว เนื่องจากยังคงมีแรงกดดันด้านเศรษฐกิจและการเมือง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ภาวะไร้เสถียรภาพในตะวันออกกลาง, สงครามในเยเมน, ประเด็นด้านเสถียรภาพในซาอุดิอาระเบีย รวมทั้งสถานการณ์ในอิหร่านและอิรัก"
ในการประชุมโอเปกครั้งที่ 173 ซึ่งจัดขึ้นที่กรุงเวียนนาเมื่อวานนี้ ที่ประชุมมีมติขยายเวลาปรับลดกำลังการผลิตน้ำมัน 1.8 ล้านบาร์เรล/วัน ออกไปอีก 9 เดือนจนถึงสิ้นปีหน้า จากเดิมที่มีกำหนดสิ้นสุดในช่วงไตรมาสแรกของปีหน้า
ขณะที่แดน อีเบอร์ฮาร์ท ซีอีโอของบริษัทคานารี ซึ่งเป็นผู้ให้บริการด้านการขุดเจาะและผลิตน้ำมันรายใหญ่สุดของอเมริกาเหนือ กล่าวว่า ในการดำเนินการตามข้อตกลงปรับลดกำลังการผลิตนั้น สมาชิกโอเปกจำเป็นต้องดำเนินการอย่างเป็นระบบและมียุทธศาสตร์
"หากสมาชิกโอเปกไม่ดำเนินการตามข้อตกลง ก็จะส่งผลให้น้ำมันดิบ 1.8 ล้านบาร์เรล ทะลักเข้าสู่ตลาดทันที" อีเบอร์ฮาร์ทกล่าว
เทเลอร์ยังกล่าวด้วยว่า แม้รัสเซียตกลงที่จะขยายเวลาปรับลดกำลังการผลิต แต่รัสเซียก็แสดงความกังวลเกี่ยวกับการพุ่งขึ้นของราคาน้ำมัน โดยรัสเซียกำลังมองหาลู่ทางที่จะสกัดการพุ่งขึ้นของราคา และรักษาราคาให้อยู่ในระดับที่มีเสถียรภาพ