IMF แนะจีนให้ความสำคัญกับเสถียรภาพการเงินมากกว่าการบรรลุเป้าหมายเศรษฐกิจ

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday December 12, 2017 14:13 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) เปิดเผยในวันนี้ว่า จีนควรให้ความสำคัญกับเสถียรภาพด้านการเงินมากกว่าการบรรลุเป้าหมายการพัฒนาเศรษฐกิจ และควรช่วยเหลือภาคเอกชนให้สามารถหลีกเลี่ยงการเลิกจ้างพนักงานซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้ปัญหาหนี้สินของจีนทวีความรุนแรงขึ้นในขณะนี้

ขณะเดียวกัน IMF ระบุว่า จีนกำลังเผชิญภาวะไร้ประสิทธิภาพในการประสานงานและการวิเคราะห์ความเสี่ยงเชิงระบบที่ไม่เหมาะสม พร้อมกับแนะนำให้จีนจัดตั้งคณะกรรมการกำกับดูแลเสถียรภาพด้านการเงินซึ่งประกอบไปด้วยเจ้าหน้าที่จากธนาคารกลางและหน่วยงานกำกับดูแลด้านการเงิน รวมทั้งเพิ่มจำนวนบุคลากรในการกำกับดูแลภาคธนาคาร

ความเคลื่อนไหวล่าสุดของ IMF สะท้อนให้เห็นถึงความกังวลที่มีต่อระบบการเงินของจีน หลังจากเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา IMF ได้ออกรายงานประเมินเสถียรภาพด้านการเงินของจีน โดยระบุว่า สินเชื่อที่ขยายตัวอย่างรวดเร็วของจีน ประกอบกับผลิตภัณฑ์การเงินที่มีความซับซ้อน และการที่รัฐบาลไม่ได้ให้การรับประกันอย่างชัดเจนนั้น ได้ส่งผลให้เสถียรภาพทางการเงินของจีนตกอยู่ในความเสี่ยง

ทั้งนี้ เพื่อเป็นการปรับปรุงการกำกับดูแลความเสี่ยงในเชิงระบบ IMF ได้แนะนำให้จีนยกระดับการประสานงานกันในหมู่เจ้าหน้าที่ฝ่ายออกกฎระเบียบ และจัดตั้งคณะกรรมการระดับสูง เพื่อติดตามความเสี่ยงในเชิงระบบต่อไป นอกจากนี้ เพื่อเป็นการป้องกันความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้นจากการรับประกันที่ผิดกฎหมาย IMF ยังได้แนะนำให้จีนเพิ่มข้อกำหนดในสำรองเงินทุนและสภาพคล่องของธนาคารพาณิชย์ แม้ว่าธนาคารเหล่านั้นได้ดำเนินการตามหลักเกณฑ์ของบาเซลแล้วก็ตาม

IMF ได้เริ่มทำการประเมินภาคการเงินของ 29 ประเทศที่ภาคการเงินมีความสำคัญในเชิงระบบตั้งแต่ปี 2542 โดย IMF ได้เริ่มประเมินภาคการเงินของจีนครั้งแรกในปี 2554 ส่วนรายงานการประเมินภาคการเงินของจีนซึ่งมีกาเผยแพร่เมื่อวานนี้ นับเป็นครั้งที่สองสำหรับจีน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ