นักลงทุนในตลาดการเงินจับตาการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันนี้อย่างใกล้ชิด ท่ามกลางกระแสคาดการณ์ที่ว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งนี้ ซึ่งจะเป็นครั้งที่ 3 สำหรับปีนี้
CME Group ระบุว่า จากการใช้เครื่องมือ FedWatch วิเคราะห์ภาวะการซื้อขายสัญญาล่วงหน้าอัตราดอกเบี้ยสหรัฐ พบว่า นักลงทุนคาดการณ์ว่ามีโอกาสถึง 100% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งนี้ โดยนักลงทุนส่วนใหญ่คาดว่าเฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.25%
นอกเหนือจากผลการประชุมเฟดในวันนี้แล้ว นักลงทุนยังจับตาดูว่า เฟดจะส่งสัญญาณการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกกี่ครั้งในปีหน้า รวมทั้งจับตานางเจเน็ต เยลเลน ประธานเฟด ซึ่งจะแถลงมุมมองทางเศรษฐกิจเป็นครั้งสุดท้าย ในฐานะประธานเฟด
-- กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เพิ่มขึ้น 0.4% ในเดือนพ.ย. เมื่อเทียบรายเดือน โดยได้แรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของราคาน้ำมัน และหากเมื่อเทียบรายปี ดัชนี PPI พุ่งขึ้น 3.1% ในเดือนพ.ย. ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนม.ค.2555
คริส โลว์ นักวิเคราะห์จากบริษัทเอฟทีเอ็น ไฟแนนเชียลกล่าวว่า ข้อมูลดังกล่าวเป็นปัจจัยล่าสุดที่อาจสนับสนุนให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมวันนี้
-- Bitfinex แพลตฟอร์มซื้อขายบิตคอยน์ที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลกเปิดเผยว่า มีแฮกเกอร์กลุ่มหนึ่งได้พยายามสกัดผู้ใช้ไม่ให้เข้าถึงบริการบนแพลตฟอร์มซื้อขายเงินตราดิจิทัล หรือที่เรียกว่า "denial-of-service attack" อย่างไรก็ตาม ทางบริษัทไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดว่า ระบบได้รับความเสียหายมากน้อยเพียง ใด
ทั้งนี้ Bitfinex เป็นผู้ให้บริการซื้อขายบิตคอยน์ที่มีปริมาณการซื้อขายสูงเป็นอันดับ 2 ของโลก
-- สำนักงานคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่นเปิดเผยในวันนี้ว่า ยอดสั่งซื้อเครื่องจักรพื้นฐาน ซึ่งไม่รวมเครื่องจักรสำหรับอุตสาหกรรมต่อเรือและสาธารณูปโภค ปรับตัวขึ้น 5% ในเดือนต.ค.เมื่อเทียบเป็นรายเดือน สู่ระดับ 8.509 แสนล้านเยน (7.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) โดยได้ปัจจัยหนุนจากอุปสงค์ที่แข็งแกร่งของอุปกรณ์ไฟฟ้าและเครื่องมือประเภทอื่นๆในภาคการผลิต
ทั้งนี้ ยอดสั่งซื้อเครื่องจักรพื้นฐานของญี่ปุ่นถือเป็นดัชนีวัดการใช้จ่ายด้านทุนของบริษัทเอกชน
-- ตลาดการเงินจับตาการประชุมธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ในวันพรุ่งนี้ โดยในการประชุม BoE ครั้งหลังสุดเมื่อวันที่ 2 พ.ย.ที่ผ่านมานั้น ที่ประชุมมีมติด้วยคะแนนเสียง 7-2 เห็นพ้องให้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% สู่ระดับ 0.50% ซึ่งเป็นการปรับขึ้นดอกเบี้ยครั้งแรกในรอบ 10 ปี
นอกจากนี้ ตลาดยังจับตาการประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) ในวันพรุ่งนี้เช่นกัน โดยในการประชุมที่ผ่านมานั้น ECB ได้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ซึ่งเป็นอัตราดอกเบี้ยรีไฟแนนซ์ ที่ระดับ 0% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ และคงวงเงินในการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ที่ระดับ 6 หมื่นล้านยูโร/เดือน จนถึงเดือนธ.ค.
-- สหพันธ์ธุรกิจอิสระแห่งชาติสหรัฐ (NFIB) เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของธุรกิจขนาดย่อมในสหรัฐ พุ่งขึ้น 3.7 จุด สู่ระดับ 107.5 ในเดือนพ.ย. ซึ่งเกือบแตะระดับสุงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยได้ปัจจัยหนุนจากความหวังที่ว่า สภาคองเกรสภายใต้การนำของพรรครีพับลิกัน จะอนุมัติร่างกฎหมายปฏิรูปภาษีครั้งใหญ่
บิล ดันเคลเบิร์ก หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์จาก NFIB กล่าวว่า แม้ว่าร่างกฎหมายปฏิรูปภาษีและร่างกฎหมายประกันสุขภาพยังไม่มีความแน่นอน แต่ภาคธุรกิจขนาดย่อมของสหรัฐยังคงมีมุมมองที่เป็นบวกว่า สภาคองเกรสจะอนุมัติต่างกฎหมายเหล่านี้ในที่สุด
-- นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจของหลายประเทศในยุโรป และสหรัฐในวันนี้ ซึ่งรวมถึงอัตราเงินเฟ้อเดือนพ.ย.ของเยอรมนี, อัตราว่างงานเดือนต.ค.ของอังกฤษ, การผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนต.ค.ของอียู ส่วนทางด้านสหรัฐจะเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนพ.ย.
-- สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจในวันพรุ่งนี้ มาร์กิตจะเปิดเผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการเบื้องต้นเดือนธ.ค. และดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเบื้องต้นเดือนธ.ค. ของเยอรมนี, ฝรั่งเศส และอียู ส่วนทางด้านสหรัฐจะเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ยอดค้าปลีกเดือนพ.ย. และสต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจเดือนต.ค.