สมาชิกรีพับลิกันในสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาสหรัฐได้บรรลุข้อตกลงขั้นสุดท้ายในการประสานเนื้อหาร่างกฎหมายปฏิรูปภาษีระหว่าง 2 สภา โดยหลังจากนี้ สมาชิกสภาคองเกรสจะทำการโหวตร่างกฎหมายฉบับสุดท้ายนี้ต่อไป ก่อนจะส่งต่อให้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ลงนามรับรองเป็นกฎหมายก่อนวันคริสต์มาส (25 ธ.ค.) นี้
รายงานระบุว่า สมาชิกรีพับลิกันในรัฐสภาได้บรรลุข้อตกลงในหลักการเมื่อช่วงเช้าวานนี้ตามเวลาสหรัฐ อย่างไรก็ตาม การผ่านร่างกฎหมายปฏิรูปภาษีฉบับปรองดองนี้ถูกปกคลุมด้วยบรรยากาศการเมืองอันอึมครึ่ม หลังนายรอย มัวร์ สมาชิกพรรครีพับลิกันได้พ่ายแพ้ให้กับนายดัก โจนส์ จากเดโมแครต ในศึกเลือกตั้งพิเศษชิงเก้าอี้วุฒิสมาชิกรัฐแอละแบมาที่ยังว่างอยู่ ซึ่งส่งผลให้พรรคเดโมแครตสามารถคว้าที่นั่งในวุฒิสภาได้เพิ่มขึ้น จาก 48 ที่นั่งเป็น 49 ที่นั่ง ขณะที่รีพับลิกันมีที่นั่งลดเหลือ 51 ที่นั่ง จาก 52 ที่นั่ง ซึ่งอาจทำให้การผลักดันกฎหมายต่างๆของประธานาธิบดีทรัมป์ในรัฐสภาหลังจากนี้ จะเป็นไปด้วยความยากลำบากยิ่งขึ้น
ด้านนายชัค ชูเมอร์ ผู้นำเสียงข้างน้อยของเดโมแครตในวุฒิสภาได้ออกมาเรียกร้องให้นายมิตช์ แมคคอนเนลล์ ผู้นำเสียงข้างมากของรีพับลิกัน เลื่อนการลงมติรับรองร่างกฎหมายปฏิรูปภาษีดังกล่าวออกไปจนกว่านายโจนส์ จะเข้าสาบานตนรับตำแหน่งสมาชิกวุฒิสภาในช่วงปลายเดือนนี้หรือต้นเดือนม.ค. โดยที่ผ่านม สมาชิกเดโมแครตได้วิพากษ์วิจารณ์มาตลอดว่า ร่างกฎหมายของรีพับลิกันเอื้อประโยชน์ต่อบริษัทขนาดใหญ่และบุคคลร่ำรวย
ทั้งนี้ สมาชิกรีพับลิกันในสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาได้เห็นพ้องที่จะปรับลดอัตราภาษีเงินได้นิติบุคคลลงเหลือ 21% จากข้อเสนอที่ระดับ 20% ในร่างกฎหมายฉบับของทั้ง 2 สภาก่อนหน้านี้ ขณะที่ปัจจุบัน สหรัฐจัดเก็บภาษีเงินได้นิติบุคคลที่ระดับ 35%
นอกจากนี้ สมาชิกรีพับลิกันยังเห็นพ้องที่จะลดภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาเหลือ 37% จากระดับ 39.6% ในปัจจุบัน
ด้านนายแมคคอนเนลล์เปิดเผยว่า ร่างกฎหมายปฏิรูปภาษีฉบับปรับปรุงของรีพับลิกันจะพ่วงกฎหมายยกเลิกข้อบังคับสำหรับบุคคลในการซื้อประกัน ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในกฎหมายประกันสุขภาพของรัฐบาลชุดก่อน หรือที่เรียกว่า "โอบามาแคร์"
สำนักงบประมาณประจำทำเนียบขาวประเมินว่า การยกเลิกข้อบังคับบางส่วนในกฎหมายโอบามาแคร์ จะช่วยให้รัฐสามารถจัดหาเงินเข้าคลังได้ประมาณ 3 แสนล้านดอลลาร์ เพื่อชดเชยเงินภาษีที่ขาดหายไปจากการลดภาษี อย่างไรก็ตาม ผลจากการยกเลิกข้อบังคับดังกล่าวจะทำให้ประชาชนชาวอเมริกัน 13 ล้านคนไม่ได้รับความคุ้มครองจากระบบประกันสุขภาพของสหรัฐ
ทั้งนี้ สมาชิกรีพับลิกันในสภาคองเกรสมีกำหนดเปิดเผยรายละเอียดร่างกฎหมายฉบับสุดท้ายในสัปดาห์นี้ และคาดว่าทั้ง 2 สภาจะทำการลงมติอย่างเร็วที่สุดภายในวันจันทร์หน้า (18 ธ.ค.)