Spotlight: สภาทองคำโลกคาด ราคาทองมีแนวโน้มปรับตัวขึ้นอีกในปี 2561

ข่าวเศรษฐกิจ Monday December 18, 2017 10:38 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สภาทองคำโลก (WGC) เปิดเผยรายงานว่า ราคาทองคำได้ปรับตัวขึ้นกว่า 9% นับตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา ถึงแม้ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยรวม 3 ครั้งในปีนี้ ขณะที่ตลาดหุ้นทั่วโลกอยู่ในทิศทางขาขึ้น บวกกับกระแสความร้อนแรงของบิตคอยน์ ซึ่งล้วนเป็นปัจจัยลบต่อทองคำก็ตาม โดย WGC คาดการณ์ด้วยว่า ราคาทองคำมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องในปี 2561 เนื่องจากมีปัจจัยสนับสนุนมากมาย

ทั้งนี้ สัญญาทองคำตลาด COMEX อยู่ที่ระดับ 1,257.50 ดอลลาร์/ออนซ์ เมื่อคืนวันศุกร์ที่ผ่านมา (15 ธ.ค.) เพิ่มขึ้น 9.19% จาก ณ สิ้นปี 2559

นายจอห์น รี๊ด หัวหน้านักกลยุทธ์ตลาดแห่งสภา WGC กล่าวว่า "ราคาทองคำได้พุ่งขึ้นอย่างน่าสนใจในรอบปีที่ผ่านมา เมื่อพิจารณาจากปัจจัยที่เฟดปรับขึ้นดอกเบี้ยหลายครั้ง และตลาดหุ้นสหรัฐอยู่ในทิศทางขาขึ้น ซึ่งไม่ส่งผลดีต่อราคาทองคำ"

ที่ผ่านมานั้น ราคาทองคำ ซึ่งเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยสำหรับนักลงทุน ได้รับแรงหนุนจากปัจจัยทางภูมิรัฐศาสตร์ ทั้งจากสถานการณ์ตึงเครียดในคาบสมุทรเกาหลีและตะวันออกลาง บวกความไม่แน่นอนจากการเจรจา Brexit ระหว่างสหราชอาณาจักรและสหภาพยุโรป (EU) รวมถึงภัยก่อการร้ายในเมืองใหญ่ๆของยุโรป

สำหรับทิศทางทองคำในปี 2561 นั้น นายรี๊ดระบุว่า นโยบายการเงินของประเทศต่างๆทั่วโลกจะเป็นปัจจัยสำคัญที่ขับเคลื่อนอุปสงค์ทองคำ เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อของหลายประเทศยังคงเคลื่อนไหวต่ำกว่าระดับเป้าหมาย ดังนั้นเราจึงอาจเห็นประเทศต่างๆใช้นโยบายการเงินแบบผ่อนคลายต่อไป

เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ธนาคารกลางสหรัฐมีมติปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นเป็นครั้งที่ 3 และครั้งสุดท้ายของปีนี้ พร้อมกับส่งสัญญาณว่าจะปรับขึ้นดอกเบี้ยอีก 3 ครั้งในปีหน้า ไม่ใช่ 4 ครั้งตามที่หลายฝ่ายคาดการณ์ไว้ ซึ่งนับเป็นนโยบายขึ้นดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไป และเป็นปัจจัยบวกต่อราคาทองคำ

นอกจากนโยบายการเงินแล้ว นักวิเคราะห์ยังมอง 2 ปัจจัยอื่นๆที่มีความสำคัญต่อทองคำในปีหน้าด้วย โดยปัจจัยแรกมาจากตลาดหุ้นสหรัฐ ซึ่งปัจจุบันอยู่ในทิศทางขาขึ้นด้วยแรงหนุนจากนโยบายปรับลดภาษีของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ โดยดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ทะยานขึ้นอย่างแข็งแกร่งกว่า 4,800 จุดในปีนี้ และการพุ่งของดัชนีตลาดหุ้นก็ส่งผลให้นักลงทุนลดความต้องการถือครองสินทรัพย์ปลอดภัยลง ดังนั้น หากทิศทางขาขึ้นสิ้นสุดลงเมื่อใด ก็อาจปัจจัยกระตุ้นอุปสงค์ทองคำให้ฟื้นตัวอีกครั้งก็เป็นได้

ปัจจัยต่อมาคือ ทิศทางการเคลื่อนไหวของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ โดยนายรี๊ดกล่าวว่า "หากปี 2560 เป็นปีสิ้นสุดเทรนด์การแข็งค่าของดอลลาร์ที่ดำเนินต่อเนื่องมาหลายปี ก็อาจถือเป็นปัจจัยบวกต่อราคาทองคำเช่นกัน"

นอกจากนี้ นักวิเคราะห์ยังกล่าวเสริมว่า ปัจจัยขับเคลื่อนทางกายภาพอื่นๆก็ไม่อาจถูกมองข้ามเช่นกัน โดยเฉพาะเรื่องการเติบโตของรายได้ ซึ่งถือเป็นปัจจัยขับเคลื่อนอุปสงค์ทองคำที่สำคัญ

สภา WGC ระบุในรายงานด้วยว่า "ภาพรวมราคาทองคำยังอยู่ในทิศทางบวก ด้วยรายได้ที่เติบโตอย่างแข็งแกร่งในตลาดทองคำรายใหญ่ของโลก รวมถึงจีน"


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ