ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ลงนามในร่างกฎหมายปฏิรูปภาษีวงเงิน 1.5 ล้านล้านดอลลาร์ในวันนี้ ตามคำสัญญาก่อนหน้านี้ที่ว่าเขาจะมอบการปรับลดภาษีครั้งใหญ่แก่ชาวอเมริกันเป็นของขวัญวันคริสต์มาส
สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐมีมติเห็นชอบต่อร่างกฎหมายปฏิรูปภาษีขั้นสุดท้าย ด้วยคะแนนเสียง 224 ต่อ 201 เสียง หลังจากวุฒิสภาลงมติรับรองร่างกฎหมายดังกล่าวเมื่อวานนี้ด้วยคะแนนเสียง 51 ต่อ 48 เสียง
ทั้งนี้ ร่างกฎหมายปฏิรูปภาษีขั้นสุดท้าย มาจากการรวมเนื้อหาของร่างกฎหมายปฏิรูปภาษีที่ผ่านการอนุมัติของวุฒิสภาและสภาผู้แทนราษฎรก่อนหน้านี้ โดยร่างกฎหมายปฏิรูปภาษีขั้นสุดท้ายจะยังคงจำนวนขั้นบันไดของการคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาไว้ที่ 7 ขั้น คือที่ระดับ 10%, 12%, 22%, 24%, 32%, 35% และ 37% โดยลดอัตราภาษีขั้นสูงสุดสู่ระดับ 37% จากระดับ 39.6% ขณะเดียวกัน จะปรับลดภาษีเงินได้นิติบุคคล ลงสู่ระดับ 21% จากระดับ 35% โดยมีผลบังคับใช้ทันทีในวันที่ 1 ม.ค.ปีหน้า แทนที่จะชะลอออกไปอีก 1 ปีตามร่างกฎหมายปฏิรูปภาษีของวุฒิสภา
ร่างกฎหมายดังกล่าวถือเป็นการปฏิรูปภาษีครั้งใหญ่ที่สุดของสหรัฐนับตั้งแต่ปี 2529 หรือกว่า 30 ปี และถือเป็นชัยชนะครั้งแรกของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และพรรครีพับลิกันในสภาคองเกรสนับตั้งแต่ที่ปธน.ทรัมป์เข้ารับตำแหน่งในเดือนม.ค.
นอกจากนี้ ปธน.ทรัมป์ยังได้ลงนามในร่างกฎหมายงบประมาณระยะสั้นในวันนี้ ก่อนที่จะถึงเส้นตายภายในเที่ยงคืนวันนี้ตามเวลาสหรัฐ หลังจากที่สภาคองเกรสให้การอนุมัติร่างกฎหมายดังกล่าวก่อนหน้านี้
ทั้งนี้ สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐมีมติด้วยคะแนนเสียง 231 ต่อ 188 อนุมัติร่างกฎหมายงบประมาณระยะสั้น ก่อนที่วุฒิสภาจะมีมติอนุมัติด้วยคะแนนเสียง 66 ต่อ 32
ร่างกฎหมายดังกล่าวจะทำให้รัฐบาลมีงบประมาณในการบริหารประเทศต่อไปจนถึงวันที่ 19 ม.ค. และจะช่วยให้หลีกเลี่ยงการปิดหน่วยงานของรัฐบาล
ทั้งนี้ งบประมาณระยะสั้นดังกล่าว ประกอบด้วยงบ 2.85 พันล้านดอลลาร์สำหรับโครงการประกันสุขภาพสำหรับเด็ก, งบประมาณ 750 ล้านดอลลาร์สำหรับโครงการรักษาโรคเบาหวาน และสำหรับศูนย์สุขภาพในชุมชนต่างๆ นอกจากนี้ ยังรวมถึงงบสำหรับโครงการขีปนาวุธและรายจ่ายอื่นๆของกระทรวงกลาโหมวงเงิน 4.5 พันล้านดอลลาร์