รายงานจากศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจของอังกฤษ (CEBR) คาดการณ์ว่า ออสเตรเลียจะก้าวขึ้นเป็นประเทศที่มีระบบเศรษฐกิจขนาดใหญ่ที่สุดเป็นอันดับที่ 11 ของโลกในทศวรรษหน้า ด้วยแรงหนุนจากการเติบโตของประชากร โดยเฉพาะอย่างยิ่งแรงงานทักษะที่มาจากต่างประเทศ
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า รายงานดังกล่าวได้จัดให้ออสเตรเลียขึ้นมา 2 อันดับ จากปัจจุบันอยู่ในอันดับที่ 13
รายงานฉบับนี้ระบุว่า การที่แรงงานจากต่างประเทศที่มีทักษะอันเป็นที่ต้องการในตลาดได้เลือกมาทำงานในออสเตรเลียนั้นคาดว่าจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ ซึ่งในอนาคตจะพึ่งพาทรัพยากรธรรมชาติลดลง และเริ่มหันไปพึ่งพาเทคโนโลยีและแนวโน้มทั่วโลกในแง่มุมใหม่ๆ
นอกจากนี้ รายงานดังกล่าวยังคาดการณ์ว่า จีนน่าจะขึ้นเป็นอันดับ 1 แทนสหรัฐในปี 2575 และเมื่อนับรวมเศรษฐกิจรายใหญ่ที่สุด 4 อันดับแรกแล้ว ในจำนวนนี้จะเป็นเศรษฐกิจของประเทศในเอเชีย 3 ประเทศด้วยกัน ได้แก่จีน อินเดีย และญี่ปุ่น ขณะเดียวกัน อินโดนีเซียและเกาหลีใต้น่าจะติด 10 อันดับแรกภายในเวลาเดียวกัน
โอลิเวอร์ โอโลเซเก้ นักเศรษฐศาสตร์ผู้ร่วมเขียนรายงานฉบับนี้ระบุว่า "แนวโน้มที่น่าสนใจคือ ภายในปี 2575 เศรษฐกิจขนาดใหญ่ที่สุด 10 อันดับแรกจะเป็นของเอเชียไป 5 ประเทศ ส่วนเศรษฐกิจยุโรปจะมีอันดับลดลง และสหรัฐอเมริกาเสียตำแหน่งผู้นำ"
ทั้งนี้ ออสเตรเลียได้อนุมัติวีซ่าให้แรงงานทักษะจากต่างประเทศไปกว่า 120,000 รายในปี 2558-2559 ซึ่งเป็นวีซ่าส่วนใหญ่เมื่อเทียบกับวีซ่าอพยพถาวรทั้งหมดที่รัฐบาลออสเตรเลียออกให้
ขณะเดียวกัน รายงานอีกฉบับของนักวิเคราะห์จากธนาคาร CommSec ของออสเตรเลีย คาดการณ์ว่า แนวโน้มเศรษฐกิจออสเตรเลียต้อนรับปีใหม่นี้เป็นไปในทางที่ดี โดยภาคธุรกิจมี "ทิศทางดี" บริษัทต่างๆมีการ "ใช้จ่าย ลงทุน และจ้างงาน" ส่วนเศรษฐกิจของประเทศคาดว่าจะขยายตัว "จากเดิมประมาณ 2% เป็นเกือบ 3% ในปี 2561"