นิสสัน มอเตอร์ และซูบารุ คอรป์ เปิดเผยว่า การผลิตรถยนต์ภายในประเทศปรับตัวลงในเดือนพ.ย. หลังจากเกิดข่าวอื้อฉาวเกี่ยวกับการตรวจสอบคุณภาพรถยนต์ ซึ่งส่งผลให้ทั้งสองบริษัทต้องระงับการผลิตภายในประเทศชั่วคราว
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า นิสสัน ซึ่งเป็นผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่อันดับ 2 ของญี่ปุ่นเมื่อพิจารณาจากปริมาณการผลิตเปิดเผยว่า การผลิตและยอดขายภายในประเทศปรับตัวลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 2 โดยการผลิตลดลง 42.9% สู่ระดับ 59,227 คัน ขณะที่ยอดขายลดลง 27.4% สู่ระดับ 34,682 คัน หลังจากบริษัทเผชิญข่าวฉาวเกี่ยวกับการปล่อยให้พนักงานที่ไม่มีใบอนุญาต ดำเนินการตรวจสอบรถยนต์
ขณะที่การผลิตรถยนต์ภายในประเทศของซูบารุ ลดลง 8.2% สู่ระดับ 60,223 คัน ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลมาจาการระงับการผลิตชั่วคราวที่โรงงานในเขตกุนมะเมื่อเดือนพ.ย.ที่ผ่านมา หลังจากที่บริษัทได้ปล่อยให้พนักงานที่ไม่มีใบอนุญาต ดำเนินการตรวจสอบรถยนต์ เช่นเดียวกับนิสสัน ขณะที่ยอดขายภายในประเทศปรับตัวลดลง 12.8% สู่ระดับ 12,161
อย่างไรก็ตาม โฆษกของบริษัทซูบารุ เปิดเผยว่า ยอดการผลิตที่ลดลงในเดือนพ.ย.นั้น สะท้อนให้เห็นถึงการชะลอตัวของตลาดจีน และปริมาณการผลิตที่ลดลงของรถยนต์เอนกประสงค์รุ่น Forester
ทางด้านโตโยต้า มอเตอร์ คอร์ป ซึ่งเป็นผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่สุดของญี่ปุ่น มียอดการผลิตรถยนต์ภายในประเทศอยู่ที่ 295,631 คัน เพิ่มขึ้น 7.6% ขณะที่ยอดขายเพิ่มขึ้น 1.3% แตะระดับ 132,737 คัน
ส่วนฮอนด้า มอเตอร์ มียอดการผลิตภายในประเทศ 78,879 คัน ลดลง 3.2% และยอดขายเพิ่มขึ้น 4.4% สู่ระดับ 60,715 คัน ขณะที่มาสด้า มอเตอร์ มียอดการผลิตภายในประเทศ 93,474 คัน ลดลง 0.2% และยอดขายภายในประเทศร่วงลง 19.3% สู่ระดับ 13,102 คัน