นายเจคอป ลูว์ อดีตรัฐมนตรีคลังสหรัฐในสมัยรัฐบาลของอดีตประธานาธิบดีบารัค โอบามา ได้กล่าวแสดงความเห็นเกี่ยวกับกฎหมายปฏิรูปภาษีของสหรัฐที่ผ่านความเห็นชอบจากสภาคองเกรสเมื่อปีที่แล้วว่า เป็นกฎหมายที่เอื้อประโยชน์ต่อบริษัทเอกชนรายใหญ่และบุคคลที่ร่ำรวย แต่จะทำให้สหรัฐกลายเป็นประเทศล้มละลาย
"หากพิจารณาในแง่ของหนี้สิน นี่ก็คือระบิดเวลาลูกใหญ่ คุณไม่สามารถดำเนินนโยบายการคลังด้วยการใช้เงินหลายล้านล้านดอลลาร์ในช่วงเวลาที่คุณยังไม่พบสัญญาณที่ชัดเจนว่าเศรษฐกิจกำลังดีขึ้น" นายลูว์กล่าวให้สัมภาษณ์กับสถานีวิทยุบลูมเบิร์กเมื่อวานนี้
ทั้งนี้ นายลูว์กล่าวว่า "สิ่งที่เราเห็นมาโดยตลอดก็คือ การปรับลดภาษีที่ต้องใช้จ่ายเงินที่เราไม่มีนั้น มักจะเอื้อประโยชน์อย่างมากต่อบริษัททั่วโลก แต่จะทำให้เราล้มละลาย"
"เราจะรับผิดชอบอย่างไรต่อภาวะขาดดุลงบประมาณที่เป็นผลมาจากการปรับลดภาษี สิ่งที่เราจะได้เห็นก็คือการเสนอให้ตัดงบประมาณประกันสุขภาพสำหรับคนจน ตัดความช่วยเหลือด้านอาหารพื้นฐานของคนยากจน รวมทั้งผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับระบบประกันสุขภาพ Medicare และระบบประกันสังคม" นายลูว์กล่าว
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ลงนามเพื่อบังคับใช้ร่างกฎหมายปฏิรูปภาษีในช่วงก่อนวันคริสต์มาสปีที่แล้ว ซึ่งถือเป็นการปฏิรูประบบภาษีครั้งใหญ่นับตั้งแต่ปี 2529 ขณะที่สำนักงานงบประมาณแห่งสภาคองเกรสของสหรัฐ (CBO) ระบุว่า กฎหมายปฏิรูปภาษีฉบับนี้จะส่งผลให้สหรัฐมีหนี้สินสูงถึง 1.5 ล้านล้านดอลลาร์ในปี 10 ปีข้างหน้า