สำนักงานอุตสาหกรรม นวัตกรรม ทรัพยากรวิทยาศาสตร์ และพลังงานออสเตรเลีย เผยแพร่รายงานแนวโน้มสินค้าโภคภัณฑ์ฉบับล่าสุด ระบุ ราคาแร่เหล็กเฉลี่ยจะอยู่ที่ระดับ 51.50 ดอลลาร์/ตันในปีนี้ ซึ่งลดลงถึง 20% จากปี 2560 เนื่องจากอุปทานแร่เหล็กทั่วโลกเพิ่มขึ้น ประกอบกับอุปสงค์จากจีนลดน้อยลง หลังจากกิจกรรมในอุตสาหกรรมเหล็กกล้าในจีนชะลอตัวลง
ครั้งล่าสุดที่ราคาแร่เหล็กต่ำกว่าระดับ 52 ดอลลาร์นั้น เกิดขึ้นเมื่อเดือนมิถุนายน 2560 ขณะที่ราคาแร่เหล็กในตลาดสปอตปัจจุบันอยู่ที่ 75 ดอลลาร์/ตัน
ตัวเลขประมาณการของรัฐบาลออสเตรเลียแตกต่างจากคาดการณ์ของภาคเอกชนไปมาก โดยยูบีเอสและซิตี้ คาดการณ์ว่า ราคาแร่เหล็กโดยเฉลี่ยจะอยู่ที่ 64 ดอลลาร์/ตัน ซึ่งทรงตัวจากระดับ 64.30 ดอลลาร์/ตันในปี 2560
สำนักงานอุตสาหกรรมฯคาดการณ์ด้วยว่า ราคาแร่เหล็ก ซึ่งเป็นวัตถุดิบในการผลิตเหล็กกล้า จะร่วงลงอีกในปี 2562 สู่ระดับเฉลี่ยที่ 49 ดอลลาร์/ตัน
ทั้งนี้ บริษัทเหมืองแร่รายใหญ่ของโลกต้องการที่จะเพิ่มการส่งออกแร่เหล็ก ถึงแม้จะพยายามกระจายน้ำหนักไปยังวัตถุดิบอุตสาหกรรมอื่นๆไปด้วย อาทิ ทองแดง อลูมิเนียม และถ่านหิน โดยวาเล บริษัทเหมืองแร่จากบราซิล ตั้งเป้าเพิ่มการส่งออกแร่เหล็ก 7% สู่ระดับ 390 ล้านตันในปีนี้ ขณะที่ริโอ ทินโต, บีเอชพี และฟอร์เทสคิว เมทัล กรุ๊ป ซึ่งล้วนเป็นบริษัทเหมืองแร่ออสเตรเลีย ตั้งเป้าเพิ่มการผลิตให้ได้อีก 170 ล้านตันในปีต่อๆไป