ธนาคารโลก หรือ เวิลด์แบงก์ ปรับเพิ่มคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจโลกในปี 2561 สู่ระดับ 3.1% จากที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ที่ระดับ 2.9% พร้อมระบุว่า เศรษฐกิจทั่วโลกมีแนวโน้มฟื้นตัวเป็นวงกว้าง โดยได้ปัจจัยหนุนจากการค้าและการลงทุนที่ปรับตัวดีขึ้น
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ธนาคารโลกเปิดเผยในรายงาน "แนวโน้มเศรษฐกิจโลก (Global Economic Prospects)" เมื่อวานนี้ โดยระบุว่า การฟื้นตัวตามวัฏจักรของเศรษฐกิจทั่วโลกนั้น กำลังเกิดขึ้นเป็นวงกว้าง โดยได้ปัจจัยหนุนจากการดีดตัวขึ้นของการค้าและการลงทุน, ภาวะด้านการเงินซึ่งอยู่ในขั้นที่ดี, นโยบายการเงินแบบผ่อนคลายในหลายประเทศทั่วโลก, ความเชื่อมั่นที่ปรับตัวดีขึ้น และการลดลงของผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการทรุดตัวของราคาสินค้าโภคภัณฑ์
ธนาคารโลกคาดว่า เศรษฐกิจโลกจะขยายตัวอย่างต่อเนื่องในอีก 2-3 ปีข้างหน้า โดยคาดว่าในปี 2562 เศรษฐกิจโลกจะขยายตัว 3.0% และขยายตัว 2.9% ในปี 2563
อย่างไรก็ตาม ธนาคารโลกเตือนว่า เศรษฐกิจอาจเสี่ยงที่จะเผชิญภาวะขาลง อันเนื่องมาจากการที่หลายประเทศหันมาดำเนินนโยบายคุมเข้มทางการเงินแบบฉับพลัน หรือกรณีการใช้นโยบายคุมเข้มทางการเงินอย่างรวดเร็วเกินคาดในสหรัฐ รวมทั้งการใช้นโยบายกีดกันการค้าที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งนโยบายการค้าแบบ "America First" ของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และสถานการณ์ตึงเครียดทางการเมืองทั้งในคาบสมุทรเกาหลีและตะวันออกกลาง
นอกจากนี้ ธนาคารโลกคาดการณ์ว่า การขยายตัวของการค้าโลกโดยเฉลี่ยจะอยู่ที่ 4% ในช่วงปี 2561-2562 จากระดับ 4.3% ในปี 2560 เนื่องจากการใช้จ่ายด้านทุนในกลุ่มประเทศที่พัฒนาแล้วและในประเทศจีน มีแนวโน้มชะลอตัวลง