วอลมาร์ท ซึ่งเป็นบริษัทค้าปลีกใหญ่ที่สุดในโลก ประกาศปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำ พร้อมกับเพิ่มสวัสดิการและผลประโยชน์อื่นๆ แก่พนักงาน เพื่อตอบรับต่อมาตรการปรับลดอัตราภาษีเงินได้นิติบุคคลของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ที่จะมีผลบังคับใช้ในปีนี้
ทั้งนี้ วอลมาร์ทจะปรับเพิ่มค่าจ้างขั้นต่ำสำหรับพนักงานรายชั่วโมงในสหรัฐ สู่ระดับ 11 ดอลลาร์/ชั่วโมง จากเดิมที่ระดับ 9 ดอลลาร์/ชั่วโมง ขณะที่ค่าแรงขั้นต่ำของรัฐบาลกลางสหรัฐอยู่ที่ระดับ 7.25 ดอลลาร์/ชั่วโมง โดยไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงนับตั้งแต่ปี 2552
ขณะเดียวกัน วอลมาร์ทจะจ่ายเงินโบนัสแก่พนักงานสูงถึง 1,000 ดอลลาร์ โดยพนักงานที่มีอายุงานมากกว่า 20 ปีจะได้รับ 1,000 ดอลลาร์ ขณะที่พนักงานที่มีอายุงาน 15-19 ปี จะได้รับ 750 ดอลลาร์, พนักงานที่มีอายุงาน 10-14 ปี จะได้รับ 400 ดอลลาร์, พนักงานที่มีอายุงาน 5-9 ปี จะได้รับ 300 ดอลลาร์ และพนักงานที่มีอายุงาน 2-4 ปี จะได้รับ 250 ดอลลาร์ ส่วนพนักงานที่มีอายุงานน้อยกว่า 2 ปี จะได้รับ 200 ดอลลาร์
วอลมาร์ทจะเปิดเผยรายละเอียดมากขึ้นเกี่ยวกับผลกระทบต่อทางบริษัทจากการปรับลดอัตราภาษีเงินได้นิติบุคคลจาก 35% สู่ระดับ 21% ในวันที่ 20 ก.พ. ซึ่งเป็นวันที่บริษัทจะเปิดเผยผลประกอบการไตรมาส 4