World Today: สรุปข่าวต่างประเทศประจำวันที่ 12 มกราคม 2561

ข่าวเศรษฐกิจ Friday January 12, 2018 17:03 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

กระทรวงการคลังญี่ปุ่นเปิดเผยในรายงานเบื้องต้นวันนี้ว่า ญี่ปุ่นมียอดเกินดุลบัญชีเดินสะพัด 1.35 ล้านล้านเยน (1.2 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ) ในเดือนพ.ย. โดยได้ปัจจัยหนุนจากรายได้ที่แข็งแกร่งจากเม็ดเงินลงทุนต่างชาติ ซึ่งส่งผลให้ญี่ปุ่นทำสถิติเกินดุลบัญชีเดินสะพัดติดต่อกันเป็นเวลานานถึง 41 เดือน

--สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือ สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ (S&P) ประกาศลดอันดับความน่าเชื่อถือพันธบัตรระยะยาวสกุลเงินต่างประเทศและสกุลเงินเรียลของบราซิล ลงสู่ระดับ BB- จากระดับ BB

S&P ระบุว่า ปัจจัยที่ทำให้ S&P ตัดสินใจปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือพันธบัตรของบราซิลนั้น มาจากการที่บราซิลมีความล่าช้าในการใช้มาตรการการคลังเพื่อสร้างสมดุลด้านบัญชีและฟื้นฟูสถานะการคลัง

--นายวิลเลียม ดัดลีย์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขานิวยอร์ก ออกมาแสดงความกังวลว่า เฟดอาจต้องใช้นโยบายการเงินเชิงรุกเพื่อชะลอความร้อนแรงของเศรษฐกิจสหรัฐในช่วงไม่กี่ปีข้างหน้านี้ ซึ่งอาจทำให้เศรษฐกิจสหรัฐตกอยู่ในความเสี่ยงที่จะเกิดภาวะ "ฮาร์ดแลนดิ้ง"

นายดัดลีย์ได้กล่าวปาฐกถาที่สมาคมตลาดหลักทรัพย์และการเงิน (SIFMA) ในสหรัฐเมื่อวานนี้ว่า "ดูเหมือนเป็นเรื่องประหลาดที่จะต้องให้ความสำคัญกับความเสี่ยงของการที่เศรษฐกิจร้อนแรงจนเกินไป ในขณะที่เงินเฟ้อยังคงเคลื่อนตัวต่ำกว่าเป้าหมายเช่นนี้ แต่นี่คือความเสี่ยงที่แท้จริงที่อาจเกิดขึ้นในช่วงไม่กี่ปีข้างหน้า"

--นายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน เปิดเผยว่า จีนให้การสนับสนุนการฟื้นฟูความสัมพันธ์ระหว่างเกาหลีใต้และเกาหลีเหนือมาโดยตลอด อีกทั้งยังส่งเสริมให้เกิดความปรองดองและความร่วมมือกันระหว่าง 2 ประเทศดังกล่าวด้วย

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า นายสี จิ้นผิง เปิดเผยในระหว่างการหารือทางโทรศัพท์กับนายมูน แจ อิน ประธานาธิบดีเกาหลีใต้ว่า จีนจะส่งเสริมการเจรจาและแลกเปลี่ยนระหว่างเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้ เพื่อคลี่คลายวิกฤติในคาบสมุทรเกาหลีอย่างค่อยเป็นค่อยไป

--ดีลอยท์ บริษัทตรวจสอบบัญชีระดับโลก เตือนว่า หากอังกฤษเดินหน้าแยกตัวออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) ด้วยกระบวนการที่ไม่ละมุนละม่อม อาจส่งกระทบต่อแรงงาน 14,000 - 42,500 ตำแหน่งในอุตสาหกรรมผลิตรถยนต์เยอรมนี

รายงาน "hard Brexit และห่วงโซ่อุปทาน" ของดีลอยท์ระบุว่า อุตสาหกรรมรถยนต์เยอรมนีอาจเสียหายคิดเป็นมูลค่า 3.8 พันล้านยูโร (4.6 พันล้านดอลลาร์) ในปี 2562 ซึ่งเป็นปีที่อังกฤษแยกตัวออกจากสหภาพยุโรป

--นายอาร์นี โซเรนเซน ประธานและซีอีโอของแมริออท อินเตอร์เนชั่นแนล อิงค์ ได้ออกแถลงการณ์ขอโทษจีน หลังจากที่ทางบริษัทได้แสดงข้อมูลเกี่ยวกับทิเบต ฮ่องกง มาเก๊า และไต้หวันว่ามีสถานะเป็นประเทศ ในแบบสอบถามลูกค้าของบริษัท

ทั้งนี้ แมริออทได้กล่าวขออภัยในสิ่งที่เกิดขึ้น พร้อมทั้งให้คำมั่นว่าจะดำเนินการป้องกันไม่ให้เรื่องดังกล่าวเกิดขึ้นอีก

--สมาคมขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ (IATA) เปิดเผยว่า การสัญจรทางอากาศทั่วโลกยังคงเติบโตในเดือนพ.ย. 2560 ซึ่งบ่งชี้ว่าอุปสงค์ในอุตสาหกรรมการบินยังคงขยายตัวอย่างแข็งแกร่ง โดยเฉพาะสายการบินในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกที่มีผลประกอบการที่สดใส

แถลงการณ์ของ IATA ระบุว่า จำนวนผู้โดยสารสายการบินระหว่างประเทศขยายตัวเพิ่มขึ้นจากระดับ 7.3% ในเดือนต.ค. เป็น 8.1% ในเดือนพ.ย. เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า

--สำนักงานศุลกากรจีน (GAC) เปิดเผยในวันนี้ว่า จีนมียอดเกินดุลการค้ากับสหรัฐเพิ่มขึ้นในปี 2560 ขณะมูลค่าการค้าต่างประเทศโดยรวมยังคงขยายตัวอย่างรวดเร็ว

นายหวง ซงผิง โฆษก GAC ระบุว่า จีนมียอดเกินดุลการค้ากับสหรัฐเพิ่มขึ้น 13% จากปีก่อนหน้า สู่ระดับ 1.87 ล้านล้านหยวน (2.88 แสนล้านดอลลาร์)

--สำนักงานศุลกากรจีน (GAC) เปิดเผยในวันนี้ว่า ยอดนำเข้าของจีนในเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้นเพียง 4.5% เทียบรายปี ขณะที่ยอดส่งออกพุ่งขึ้น 10.9% ซึ่งส่งผลให้จีนมียอดเกินดุลการค้าในเดือนธ.ค.ทั้งสิ้น 5.469 หมื่นล้านดอลลาร์

--สื่อต่างประเทศซึ่งรวมถึงสกาย นิวส์ และเดอะ กาเดียน รายงานว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ยกเลิกแผนการเดินทางเยือนประเทศอังกฤษในเดือนหน้า เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่จะเกิดการประท้วง

สื่อทั้งสองสำนักระบุว่า นายเร็กซ์ ทิลเลอร์สัน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ จะเดินทางเยือนอังกฤษแทนปธน.ทรัมป์ เพื่อร่วมพิธีเปิดสถานทูตสหรัฐแห่งใหม่ในกรุงลอนดอน

--ทางการจีนได้ออกมาแสดงการคัดค้านและวิตกกังวลต่อการใช้นโยบายกีดกันการค้าของสหรัฐ หลังจากที่โครงการของ 2 บริษัทจีนในสหรัฐต้องถูกระงับลง จากข้ออ้างในเรื่องความปลอดภัย

นายเกา เฟิง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์จีน กล่าวว่า "เมื่อเร็วๆนี้ เราสังเกตได้ว่าการกีดกันทางการค้ากำลังแพร่กระจายเป็นวงกว้างในสหรัฐอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน"

--ผลสำรวจซึ่งจัดทำโดยแกลลัพ โคเรียเปิดเผยในวันนี้ว่า คะแนนนิยมของนายมูน แจ อิน ประธานาธิบดีเกาหลีใต้ ปรับตัวเพิ่มขึ้นในสัปดาห์นี้ หลังจากที่เกาหลีใต้ได้เข้าร่วมประชุมระดับสูงกับเกาหลีเหนือ ซึ่งก่อให้เกิดความหวังว่า ความสัมพันธ์ระหว่างสองเกาหลีจะฟื้นตัวขึ้น

ผลสำรวจระบุว่า คะแนนนิยมนายมูน แจ อิน เพิ่มขึ้น 1% สู่ระดับ 73% ในสัปดาห์นี้

--สหภาพแรงงานของบริษัทโตโยต้า มอเตอร์ คอร์ป เปิดเผยว่า ทางสหภาพจะเรียกร้องให้มีการปรับเพิ่มฐานเงินเดือนพนักงานอย่างน้อย 3,000 เยน (27 ดอลลาร์) ในการเจรจาค่าแรงในฤดูใบไม้ผลิปีนี้

ทั้งนี้นับเป็นปีที่ 5 ติดต่อกันที่สหภาพแรงงานโตโยต้าได้เรียกร้องขอขึ้นค่าแรงให้กับพนักงาน โดยทางสหภาพฯจะยื่นข้อเรียกร้องอย่างเป็นทางการในวันเสาร์นี้ หลังจากที่เคยเรียกร้องให้เพิ่มค่าแรง 3,000 เยนมาแล้วในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา

--สำนักข่าว DPA ของเยอรมนีรายงานในวันนี้ว่า การเจรจาในการจัดตั้งรัฐบาลผสมของเยอรมนี ระหว่างพรรคสหภาพประชาธิปไตยคริสเตียน (CDU) ของนางอังเกลา แมร์เคิล นายกรัฐมนตรีเยอรมนี กับพรรคสังคมประชาธิปไตย (SPD) เริ่มมีความคืบหน้าแล้วในประเด็นที่สำคัญๆ เช่น การอพยพ การเงิน และภาษี ขณะที่อีกหลายประเด็นยังคงอยู่ระหว่างการเจรจา

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า เยอรมนียังคงพยายามหาทางจัดตั้งรัฐบาลที่มีประสิทธิภาพ หลังพรรคร่วมรัฐบาลของนางแมร์เคิลไม่สามารถครองเสียงข้างมากในรัฐสภาได้อย่างเด็ดขาด แม้ได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งเมื่อปีที่แล้ว

--ธนาคารกลางจีนเปิดเผยในวันนี้ว่า ยอดปล่อยเงินกู้ล็อตใหม่สกุลเงินหยวนประจำเดือนธ.ค. อยู่ที่ระดับ 5.844 แสนล้านหยวน (ประมาณ 9 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ) ซึ่งน้อยกว่าในช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้าอยู่ 4.60 แสนล้านหยวน

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ยอดปล่อยกู้เดือนธ.ค.เพิ่มขึ้นน้อยกว่าที่มีการคาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่าจะแตะที่ 1 ล้านล้านหยวน และเป็นระดับต่ำที่สุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย. 2559

--นายทาโร โคโนะ รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศของญี่ปุ่น ได้เรียกร้องให้นางออง ซาน ซูจี ที่ปรึกษาแห่งรัฐของเมียนมา รับประกัน "ความปลอดภัยรวมถึงความสมัครใจในการกลับถิ่นฐานเดิมและการตั้งถิ่นฐานใหม่" ของชาวโรฮิงญาที่ได้หลบหนีความรุนแรงจากรัฐยะไข่ของเมียนมาไปยังประเทศบังกลาเทศ

นายโคโนะ ได้แถลงต่อสื่อมวลชนหลังพบปะกับนางออง ซาน ซูจี ที่กรุงเนปิดอว์ของเมียนมาว่า "ญี่ปุ่นต้องการสนับสนุนความพยายามของเมียนมา" ซึ่งรวมถึงในรัฐยะไข่

--กระทรวงการคลังเกาหลีใต้เปิดเผยว่า เศรษฐกิจเกาหลีใต้มีสัญญาณฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องจากอานิสงส์ส่งออกแข็งแกร่ง

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า รายงานประเมินภาวะเศรษฐกิจรายเดือนของกระทรวงการคลังเกาหลีใต้ หรือ กรีนบุ๊ก ระบุว่า ทิศทางการฟื้นตัวดังกล่าวดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่การผลิต การบริโภค และการลงทุนต่างฟื้นตัว ท่ามกลางการส่งออกที่ขยายตัวต่อเนื่อง


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ