นายเดวิด ลิปตัน รองผู้อำนวยการกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) เปิดเผยว่า จีนควรหันมาหาช่องทางกำจัดจุดอ่อนในระบบการค้าของตน หากต้องการเป็นผู้นำกระแสโลกาภิวัตน์
รองผอ.IMF ระบุว่า จีนควรดำเนินการผ่อนคลายระเบียบข้อบังคับด้านการค้าและการลงทุน ตลอดจนคุ้มครองสิทธิของทรัพย์สินทางปัญญา ลดการบิดเบือนนโยบายภาคอุตสาหกรรม แก้ไขปัญหาการผลิตส่วนเกิน และลดนโยบายที่เอื้ออำนวยเพียงรัฐวิสาหกิจ
นอกจากนี้ รัฐบาลจีนควรผลักดันภาคการเงินให้มีความมั่นคงมากขึ้นด้วย โดยรองผอ.IMF มองว่า จีนได้เกิดความก้าวหน้าในเรื่องนี้ และจำเป็นต้องสานต่อความก้าวหน้านี้ต่อไป เพื่อไม่ให้เศรษฐกิจและสังคมของจีนต้องหยุดชะงัก
เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา IMF เปิดเผยว่า จีนควรให้ความสำคัญกับเสถียรภาพด้านการเงินมากกว่าการบรรลุเป้าหมายการพัฒนาเศรษฐกิจ และควรช่วยเหลือภาคเอกชนให้สามารถหลีกเลี่ยงการเลิกจ้างพนักงานซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้ปัญหาหนี้สินของจีนทวีความรุนแรงขึ้นในขณะนี้
ขณะเดียวกัน IMF ระบุว่า จีนกำลังเผชิญภาวะไร้ประสิทธิภาพในการประสานงานและการวิเคราะห์ความเสี่ยงเชิงระบบที่ไม่เหมาะสม พร้อมกับแนะนำให้จีนจัดตั้งคณะกรรมการกำกับดูแลเสถียรภาพด้านการเงินซึ่งประกอบไปด้วยเจ้าหน้าที่จากธนาคารกลางและหน่วยงานกำกับดูแลด้านการเงิน รวมทั้งเพิ่มจำนวนบุคลากรในการกำกับดูแลภาคธนาคาร
ความเคลื่อนไหวล่าสุดของ IMF สะท้อนให้เห็นถึงความกังวลที่มีต่อระบบการเงินของจีน หลังจากเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา IMF ได้ออกรายงานประเมินเสถียรภาพด้านการเงินของจีน โดยระบุว่า สินเชื่อที่ขยายตัวอย่างรวดเร็วของจีน ประกอบกับผลิตภัณฑ์การเงินที่มีความซับซ้อน และการที่รัฐบาลไม่ได้ให้การรับประกันอย่างชัดเจนนั้น ได้ส่งผลให้เสถียรภาพทางการเงินของจีนตกอยู่ในความเสี่ยง